“พุทธิพงษ์” เผย นายกฯ เร่งทำ Big Data เพื่อความโปร่งใสใช้งบประมาณแต่ต้องใช้เวลา จ่อดึงข้อมูลคนไข้ใช้ใน รพ.ช่วยรักษาแม่นยำ
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงความคืบหน้านโยบาย Big Data เชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐของแต่ละกระทรวง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วน ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกกระทรวง เพราะหากเชื่อมโยงทั้งหมดจะต้องมีฐานเก็บข้อมูลขนาดใหญ่มหาศาล โดยแต่ละกระทรวงก็มีหลายหน่วยงาน และไม่ง่ายหากจะทำทั้งหมดขณะนี้กระทรวงคมนาคม ได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวง DES ในหลายเรื่องแล้วแต่ยังไม่ถึงขนาดเป็น Big Data สมบูรณ์ โดยได้เริ่มใช้คลาวด์กลางภาครัฐ(Government Data Center and Cloud service : GDCC) ในการเก็บข้อมูล เช่น กรมการขนส่งทางบก ที่เริ่มนำข้อมูล รถ บขส. มาเก็บไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
สำหรับการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลัง ที่ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ทำให้สามารถพบข้อมูลซ้ำซ้อนของเบี้ยผู้สูงอายุ และสวัสดิการของรัฐอื่นๆ นั้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้พยายามบูรณาการข้อมูล เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละครึ่ง และเบี้ยคนพิการที่ได้พยายามเอาข้อมูลที่รัฐได้จ่ายให้กับประชาชนมาเทียบเคียงกัน จึงทำให้ทราบข้อมูลความซ้ำซ้อนของประชาชนและคนที่ควรได้รับสิทธิ์แต่เข้าไม่ถึงแต่ในการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ นั้น ยังไม่ได้นำมาเชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวง DES ที่ข้อมูลดังกล่าวยังคงอยู่กับหน่วยงานที่จ่ายเงิน
อย่างไรก็ตาม การเชื่อมโยงข้อมูล Big Data ถือเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ตั้งเป้าได้ยาก เพราะทุกข้อมูลอยู่ตามหน่วยงานต่างๆและต้องใช้เวลาในการนำข้อมูลมารวบรวมไว้ เพื่อความโปร่งใสและการใช้งบประมาณ ซึ่งเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ได้เร่งดำเนินมาตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาและทุกภาคส่วนเริ่มให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น
โดยสิ่งที่กำลังเห็นเป็นรูปธรรมในเร็ววันนี้คือการรวบรวมข้อมูลของโรงพยาบาล ที่ขณะนี้มีประมาณ 100 กว่าโรงพยาบาล ที่พยายามนำข้อมูลของคนไข้ไปเก็บไว้ ใน GDCC เพื่อให้สามารถดึงข้อมูลการรักษาพยาบาลได้ โดยไม่ต้องสอบประวัติใหม่ และรักษาโรคได้แม่นยำมากขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
