“ประวิตร”คุยทูตอิสราเอล สานต่อร่วมมือแรงงาน เพิ่มมูลค่าการค้า ยันดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ส่งเสริมความมั่นคง
นางออร์นา ซากิฟ (H.E. Ms. Orna Sagiv) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ซึ่งรู้สึกยินดีที่ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศราบรื่น
ซึ่งทั้งสองประเทศจะเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 70 ปี ในปี 2567 พร้อมหวังว่าจะได้ต้อนรับการเยือนไทยของประธานาธิบดีอิสราเอลอย่างเป็นทางการในอนาคต เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ด้านเอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ รู้สึกยินดีที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พร้อมหารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอิสราเอล ในทุกด้าน โดยเฉพาะ การค้า แรงงาน เทคโนโลยี และความมั่นคง
ทั้งนี้ อิสราเอลให้ความสำคัญกับไทยในฐานะประเทศที่มีความสำคัญต่ออิสราเอลในภูมิภาค โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ ยังยืนยัน? ที่จะสานต่อความร่วมมือทุกด้าน เพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ไทยและอิสราเอลแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ด้านความร่วมมือแรงงาน ทั้งสองเห็นพ้องร่วมมือกันส่งเสริมสิทธิ์และสวัสดิการของแรงงาน พร้อมหารือถึงความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้แรงงานไทยในภาคการเกษตรสามารถกลับไปทำงานในอิสราเอลได้อีกครั้ง
โดยเชื่อว่าแรงงานเกษตรของไทยจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของอิสราเอลได้ รองนายกรัฐมนตรียังหวังว่า? อิสราเอลจะดูแลความปลอดภัยของแรงงานไทยในอิสราเอล ซึ่งเอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ ยืนยันที่จะดูแลแรงงานไทย พร้อมทั้งพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายกองทุนชดเชย เมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง (Deposit Fund) เพื่อส่งเสริมสิทธิ์และสวัสดิการของแรงงานในอิสราเอล รวมถึงความเป็นไปได้ในการจัดส่งแรงงานภาคการก่อสร้างในลักษณะ G-to-G
สำหรับความร่วมมือด้านการพัฒนา ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือด้านวิชาการและการพัฒนาเป็นไปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความร่วมมือ ผ่านองค์กรความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างประเทศของอิสราเอล
ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีมองว่า ทั้งสองฝ่ายควรพิจารณาแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคี เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยส่งเสริมบทบาทที่สร้างสรรค์ของทั้งไทยและอิสราเอล
ด้านการท่องเที่ยว เอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ กล่าวว่า ไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวอิสราเอล โดยมีชาวอิสราเอลเดินทางมาไทยเฉลี่ยปีละเกือบ 2 แสนคน สะท้อนถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดในระดับประชาชน
พร้อมยังชื่นชมการจัดการกับโรคโควิด-19 และการจัดหาวัคซีนให้ชาวไทย จนไทยสามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ ด้านรองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอิสราเอลอย่างเหมาะสม พร้อมหวังว่าจะมีชาวอิสราเอลกลับมาเดินทางท่องเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น
ในตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าพร้อมให้ความร่วมมือเอกอัครราชทูตฯ ในทุกด้านเพื่อเป็นประโยชน์กับความร่วมมือระหว่างกัน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนของทั้งสองประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews