แอมเนสตี้ -นักกิจกรรม ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ รัฐบาล ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยุติการดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนทุกคน ชี้ ได้รับผลกระทบในสิทธิเสรีภาพการแสดงออกและการมีชีวิต
กลุ่มแอมเนสตี้ ประเทศไทย นำโดย ปิยนุช โครตสาร ผอ.แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย ตัวแทนนักกิจกรรมและนักวิชาการที่ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เดินทางมา รวมตัวกันที่ บริเวณประตู5 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือ ถึงนายกรัฐมนตรีหรือรักษาการนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ยุติการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยุติการดำเนินคดี กับผู้ที่แสดงออกทางการเมือง
โดยที่ผ่านมามีผู้ที่ถูกกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างน้อย 1,467คน 647 คดีทางกลุ่ม มองว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่า ที่ผ่านมา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ทำเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโลก แต่เพื่อกีดกันการแสดงออกของประชาชน และหลังจากโควิดบางลง แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังถูกบังคับใช้ และมีการใช้กฎหมายควบคุมการชุมนุมกับประชาชน รวมถึง การประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมาขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเอื้อต่ออำนาจของรัฐบาลสร้างภาระให้กับประชาชน และการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการใช้ข้อบังคับในภาวะฉุกเฉินเกินความจำเป็น
ส่งผลกระทบต่อสิทธิ์ในการมีชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงของบุคคลสิทธิ์ในการแสดงออก รวมถึงสิทธิ์ในการชุมนุมด้วย ดังนั้นทางกลุ่มเห็นว่า รัฐบาล ควรที่จะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งนี้ มีที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สมพาศ นิลพันธ์ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ โดยระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสิทธิเสรีภาพของประชาชน และข้อเรียกร้องทั้ง6ข้อ จะรับไปพิจารณาดำเนินการต่อ
สำหรับ ข้อเรียกร้องที่ยื่นต่อรัฐบาลวันนี้รวมทั้งหมด 6 ข้อ คือ ยุติการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยคำนึงถึงความจำเป็นและความเหมาะสม, อนุญาตและคุ้มครองให้บุคคลหรือกลุ่มใดๆ สามารถแสดงความเห็นและชุมนุมประท้วงโดยสงบได้ในพื้นที่ปลอดภัย
โดยรัฐต้องอำนวยความสะดวกให้, ยุติการดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่แสดงออกประชุมนุมประท้วงโดยสงบ, ดำเนินการให้มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่มีหน้าที่ควบคุมฝูงชนต่างได้รับการอบรมอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชน, มาตรการทั้งปวงที่นำมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และการเลี่ยงพันธกรณีด้านสิทธิ์ต้องมีเนื้อหาสอดคล้องกับข้อกำหนดในแง่การให้ข้อมูลความถูกต้องตามกฎหมาย
รวมถึงกำหนดให้มีกลไกการตรวจสอบที่เป็นอิสระ, พิจารณาและปรับปรุง พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558ให้สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศ และหลักความถูกต้องของกฎหมาย เพื่อนำมาใช้แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อประกันความรับผิดและการเยียวยาให้มีประสิทธิภาพ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews