รัฐบาลประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเตรียมความพร้อมรับมือ “พายุโนรู” และ “มรสุมตะวันตกเฉียงใต้” ที่มีกำลังแรงขึ้น วางแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเตรียมความพร้อมรับมือพายุไต้ฝุ่น “โนรู (NORU)” ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยในวันที่ 28 – 29 กันยายน 2565 และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น โดยติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แนวทางระบายน้ำ และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ (27 กันยายน 2565) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นโนรู บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของประเทศไทยในวันที่ 28 – 29 กันยายน 2565 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2565 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้เร่งเตรียมการรับมือและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน โดยกระทรวงมหาดไทยเตรียมความพร้อมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด รับมือผลกระทบพายุโนรู โดยวาง 5 แนวทางแผนเผชิญเหตุอุทกภัย ได้แก่
1) จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ติดตามสถานการณ์พายุโนรู ประเมินสถานการณ์ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่
2) ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัย เตรียมความพร้อมในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
3) เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ ให้จัดชุดปฏิบัติการเข้าคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
4) หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง ให้อพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้โดยทันที
5) สำหรับจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย และเกิดขึ้นต่อเนื่อง ให้จัดตั้งศูนย์พักพิงและวางแผนบริหารจัดการ เพื่อรองรับการอพยพของประชาชนอย่างเป็นระบบ
ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เร่งเตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุปฏิบัติการช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เข้าช่วยเหลือด้านต่าง ๆ อาทิ ช่วยเหลือรถเสียจากน้ำท่วม กีดขวางการจราจร จัดการจราจรหลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วม อำนวยความสะดวกเส้นทางสัญจร และชุดสายตรวจคอยป้องกันเหตุอาชญากรรมไม่ให้คนร้ายมาฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อน รวมทั้งติดตามข่าวสาร เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่
และทุกหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนหากมีสภาวะฉุกเฉิน โดยหากอุทยานใด มีความสุ่มเสี่ยงต่อการจะเกิดอุบัติเหตุ ขอให้ปิดตัว เพื่อดูแล ป้องกันเรื่องความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้เตรียมแผนการรับมือและติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำท่วม พร้อมทั้งเดินหน้าแผนรับน้ำเข้าทุ่งรับน้ำทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง โดยดำเนินการจัดเวทีสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในแต่ละทุ่งรับน้ำ เพื่อชี้แจงสถานการณ์น้ำ เกณฑ์การรับน้ำเข้าทุ่ง ระบบการปลูกข้าวเหลื่อมเวลา มาตรการส่งเสริมการดำรงชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่รับน้ำ และการให้ความช่วยเหลือและการชดเชยเยียวยาผู้ประสบภัย พร้อมทั้งการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews