นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายดันเชียงใหม่ “เมืองเทศกาลโลก”
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วน ทำเชียงใหม่ได้รับคัดเลือก “เมืองเทศกาลโลก” ดันSoft Power ผ่านระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ Creative LANNA
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกันจนทำให้ จ.เชียงใหม่ได้รับเลือกจากสมาคมเทศกาล และกิจกรรมระหว่างประเทศ เป็น “เมืองเทศกาลโลก” ประจำปี 2022 โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ร่วมกับกับสมาคมวิศิษฏ์ล้านนาเพื่ออุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว เป็นผู้ส่งจังหวัดเชียงใหม่เข้าประกวดชิงรางวัลครั้งนี้
น.ส.รัชดา กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งส่งเสริมการบูรณาการระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้อง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ และเครือข่ายภาคเอกชนและประชาชน เพื่อชูจุดแข็งของประเทศด้านSoft Power
ทั้งงานเทศกาลของประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาหาร วัฒนธรรม ความงามตามธรรมชาติ และด้านสุขภาพ ซึ่งจากความร่วมมือของทุกหน่วยงานทำให้ เชียงใหม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองเทศกาลโลก
โดย IFEA คัดเลือกจากเมืองที่มีงานเทศกาลโดดเด่น มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และเหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบในการใช้งานเทศกาลสร้างเศรษฐกิจ การมีส่วนร่วมในพื้นที่ และการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี
รัฐบาลได้กำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ ครอบคลุม จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และลำปาง เพื่อพัฒนาเป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน เป็นแหล่งผลิตสินค้า และบริการที่ต่อยอดจากฐานวัฒนธรรมล้านนา
จากการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่มตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์ บริการ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้น จังหวัดในภาคเหนือยังสามารถเชื่อมโยงเข้ากับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยเฉพาะ สปป.ลาว และจีนตอนใต้ ผ่านระบบโครงข่ายเส้นทางคมนาคม รถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งเส้นทางแม่น้ำโขงออกไปมณฑลยูนนาน ทำให้มีโอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้นางสาวรัชดา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกด้านต้องมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน สอดคล้องกับศักยภาพและการยอมรับของคนในพื้นที่ รางวัล “เมืองเทศกาลโลก” ที่จ.เชียงใหม่ได้รับ
ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ซึ่งในระยะต่อไป รัฐบาลได้กำหนดโครงการระเบียงเศรษฐกิจ ที่จะสร้าง “พื้นที่เศรษฐกิจ” ใหม่ ๆ กระจายไปทั้ง 4 ภาคของประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาในทุกภูมิภาค ต่อยอดของดี ที่มีเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ ขับเคลื่อน Soft Power ให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ สร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews