เสวนา “ลุ่มเจ้าพระยา ชี มูล ท่วมขนานใหญ่ เพื่อไทยแก้ได้” เสนอแก้ปัญหาสอดคล้องกับธรรมชาติที่เปลี่ยนไป ทบทวนผังมืองใหม่ ปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจ
พรรคเพื่อไทยจัดเสวนา “ลุ่มเจ้าพระยา ชี มูล ท่วมขนานใหญ่ เพื่อไทยแก้ได้” โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี, น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย, นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ร่วมการเสวนา
โดยนายปลอดประสพ กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีฟังเยอะๆ และกลับมาทบทวน และขอเตือนรัฐบาลต้องตระหนักว่าเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปีในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ ครอบคลุมพื้นที่อีสานใต้ 1 ใน 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมดที่ ซึ่งกระทบกับประชาชน 10 ล้านคนในตะวันออกเฉียงเหนือ ขาดอาหาร ขาดยา และประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัยเพราะจมไปหมดแล้ว น้ำลดก็เสียหาย การเดินทางทำไม่ได้ ไม่สะดวก เป็นต้น
ความช่วยเหลือที่รัฐบาลทำเราเห็นช่วยไม่ทันการไม่แม่นพื้นที่ และไม่เพียงพอ เราวิตกมาก เห็นความอับจนหาหนทางแก้ปัญหาระยะสั้น ยาว เมื่อเห็นความอับจนแบบนี้เพราะไม่เห็นอะไร สิ่งสำคัญ 3 สิ่งที่ควรต้องตระหนักรู้ 3 ข้อ คือ การขาดประสิทธิภาพ การแจ้งเตือนภัยไม่ชัดเจน ไม่แม่นยำ ไม่ทันเวลา เรื่องเดียวที่ชมได้คือเรื่องอุตุนิยมวิทยา ที่สามารถแจ้งเตือนได้
แต่เรื่องน้ำท่วมทำไม่ได้ บอกไม่ได้ เตือนไม่ได้ว่าน้ำจะลดเมื่อใด และเมื่อน้ำท่วมการอพยพแหล่งพักพิงชั่วคราวทำแบบลุกลนไม่แม่นยำ บางแห่ง เช่น อุบลราชธานีที่มีการย้ายไปเรื่อยๆ เพราะน้ำสูงขึ้น ทำเชื่องช้า ไม่ทันการณ์ และเรื่องใหญ่คือทัศนของตนมองว่าล้มเหลวในการเลือกยุทธวิธีบริหารสภาวะวิกฤต บางคนอาจเป็นทหารมากไป คอนโทรลในภาคอีสานไม่ได้ ไม่มีเครื่องมือ พื้นที่นั้นลาดชันสูงกว่าภาคกลาง ที่จริงสถานการณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องใช้การบรรเทาผลกระทบ เมื่อรู้ว่าเกิดแน่นอนต้องหาทางบรรเทาประชาชนได้อย่างไร
คำแนะนำและนโยบายพรรค 6 ข้อ ถ้านำไปใช้เราก็ยินดี คือ ต้องปรับยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเป็นแบบการอยู่กับความเปลี่ยนแปลง, จะต้องยึดแนวการพัฒนาสอดคล้องกับธรรมชาติ ต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ทบทวนผังเมืองให้เหมาะสมกับสภาวะน้ำมากและหลากแรง, ทบทวนสิ่งก่อสร้าง สถานที่ต่างๆ ใหม่, น้ำเยอะแน่นอนไปอีกนาน สิ่งก่อสร้างบ้านเมืองสร้างแล้ว
ต้องปกป้องสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ให้ได้ โดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่และพื้นที่เศรษฐกิจ, จะต้องหาพื้นที่ทำฝาย และต้องปรับแต่งหรือจัดสร้างพื้นที่แก้มลืงในพื้ตที่ราบต่ำ สมัยหน้าพวกตน จะทำเรื่องนี้แน่นอน นี่เป็น 6 เรื่องที่พรรคเพื่อไทยไม่หวงที่จะแชร์ความรู้และประสบการณ์กับรัฐบาลอะไรทำได้ก็ทำ
ขณะที่น.ส.กิตติ์ธัญญา และนายจิรพงษ์ ต่างร่วมสะท้อนปัญหาในพื้นที่ เช่น ที่จังหวัดอุบลราชธานี ในอำเภอวารินชำราบนั้นแม้ น้ำจะท่วมทุกปี แต่ปีนี้จำนวนของน้ำท่วมสูงหลังมีพายุโนรูเข้ามา ประกอบกับแม่น้ำหลายสายมาประจบที่อำเภอวารินชำราบ ซึ่งชาวบ้านต่างถามว่าจะต้องทนอยู่กับน้ำท่วมไปอีกเมื่อไหร่ จึงอยากถามนายกรัฐมนตรีว่าแก้ปัญหาอย่างไรจะช่วยอย่างไร
พร้อมแนะนำในพื้นที่วารินชำราบ มีฝาย มีคูคลองอยู่มาก ควรจะไปขุดลอกเชื่อลดผลกระทบได้ อีกทั้งฝ่ายการเมืองไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากติดกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.ส่วนที่จังหวัดนนทบุรีเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก
หากเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำมากกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับน้ำทะเลหนุน จะทำให้น้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เช่นที่ ตำบลบางไผ่ ตำบลไทรม้า ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและต้องเจอกับน้ำท่วมทุกปี จึงอยากให้มีการยกบ้านให้สูงขึ้น หรือเรียกกว่าการดีดบ้าน และอยากให้รัฐบาลนี้หรือรัฐบาลหน้า ช่วยนำนโยบายนี้ไปผลักดัน เพื่อช่วยลดผลกระทบให้กับประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews