ทนายไพศาล อ้างมีทหารตามประกบ แฉ 20 ทหารเอี่ยว โครงการกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ กองทัพบก แต่ได้ดี ขยับเป็น นายพล
นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำผู้ประกอบการ ที่ได้รับความเสียหายจากโครงการกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ กองทัพบก มายื่นหนังสือต่อกระทรวงกลาโหม ในฐานะหน่วยที่กำกับดูแลกองทัพบก
โดย นายไพศาล กล่าวว่า ตามที่กองทัพบก ได้แถลงชี้แจงว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งลงโทษ งดบำเหน็จและปลดออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ปรากฏว่า ยังมีคนที่เกี่ยวข้อง ได้รับการเลื่อนยศและตำแหน่ง อีกทั้งกองทัพบก ยังระบุว่าโครงการ กู้เงินอบท. การเคหเพื่อการสงเคราะห์ ระงับไปแล้วตั้งแต่ปี 2564 แต่ในปี 2565 ยังมีการเรียกรับเงิน 5% เรื่องนี้ต้องตอบคำถามให้ได้
นายไพศาล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยพูดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ประกอบการกับ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่เป็นระดับนายทหาร แต่กองทัพบกได้แถลงว่ามีความเกี่ยวข้องกันก็ถือเป็นเรื่องดี เรื่องนี้เป็นประเด็นสังคม จึงต้องถามกลับไปที่กองทัพบก แม้จะระบุว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคลและอยู่ในขั้นตอนของศาลแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ 5% กับ จำนวนกำลังพลหลายร้อยนาย คิดเป็น เป็นมูลค่าความเสียหาย 30-40 ล้านบาทจะรับผิดชอบอย่างไร
” ผมอยากรู้ว่าเรื่องต่างๆ เหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นใครจะเป็นผู้เยียวยาผู้ประกอบการและกำลังพลที่ได้รับผลกระทบ กองทัพบก ก็ให้ความชัดเจนไม่ได้ จึงต้องมาที่กระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นหน่วยเหนือ ที่กำกับดูแลกองทัพบกโดยตรง หากยังติดใจสงสัยอะไรหรือยังไม่มีหลักฐาน ผมจะนำไปให้ ไม่ต้องส่งใครมาประกบซ้ายประกบขวา มีอะไรก็ให้ติดต่อมา”
นายไพศาล กล่าวอีกว่า ที่ออกมาพูดเพราะกลัวว่ามันจะเกิดเหตุแบบที่โคราชอีก เพราะมันมีจุดเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง และการลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องมีแค่การงดบำเหน็จ เอาออกจากตำแหน่ง แค่นั้นเองใช่หรือไม่ ซึ่งกองทัพบกบอกว่าลงโทษตั้งแต่ปี 2563 แต่ปัจจุบัน แต่ละคนได้ยศ ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น บางคนได้ขยับเป็นนายพล และบางคนเกษียณไปแล้ว บางคนลาออก ตนมีรายชื่อทหารเกี่ยวข้อง ประมาณ 20 รายชื่อ ที่มีจุดเชื่อมโยงเส้นทางทางการเงินชัดเจน อยากถามเช่นกันว่าบุคคลเหล่านี้ทำไมถึงยังได้เลื่อนยศและตำแหน่ง และจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป
ทั้งนี้ นายไพศาล กล่าวอ้างว่า ได้รับการร้องเรียนจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นทหารที่กู้ซื้อบ้านตามโครงการสวัสดิการของกองทัพบกโดยรายหนึ่งพบว่าซื้อบ้านที่ โคราช ผ่อนมา 10 ปี แต่ปรากฏว่าเป็นที่ สปก. ซึ่งกองทัพบกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตั้งแต่ต้นปีจนมาถึงขนาดนี้ยังไม่มีความคืบหน้า อีกกรณีหนึ่งที่ ภาคใต้ ที่มีการกล่าวอ้างว่า โดนโกง หัดค่าหัวคิวจำนวนมาก ตัวการใหญ่ลอยนวล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews