“พิจารณ์” เชื่อ ก้าวไกลจะไม่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว หลังเสนอแก้ไข กม.บังคับใช้ ม.112 มองเป็นเรื่องตลกแนวคิด “หมดยุคลุงตู่ สู่ยุคลุงป้อม” ชี้ ประเทศไม่ใช่สนามวิ่งผลัด
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงแนวทางของพรรคก้าวไกลในการเตรียมการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้วอำนาจแต่อาจเป็นโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนประเทศ โดยพรรคก้าวไกลเสนอนโยบายที่ครบถ้วนมากกว่าสมัยพรรคอนาคตใหม่ ทั้งเรื่องโครงสร้างและระยะสั้นระยะกลาง ดังนั้นพรรคก้าวไกล
หวังว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจกับพรรคก้าวไกล ส่วนผลการเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างไรเป็นเรื่องของประชาชน ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันชัดเจนว่าคงไม่สามารถที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่นั่งร้านให้กับการสืบทอดอำนาจของ คสช. ได้
ทั้งนี้นายพิจารณ์ ยืนยันว่า พรรคไม่ได้แสวงหาอำนาจหรือลาภยศ แต่การทำงาน ก็เพื่อแสวงหาโอกาสที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงประเทศและสร้างสังคมไทยให้ดีกว่านี้ ส่วนกระแส “หมดยุคลุงตู่ สู่ลุงป้อม”นายพิจารณ์ มองว่า เป็นเรื่องตลก ประเทศไทยไม่ใช่สนามวิ่งผลัดที่จะมาส่งไม้ต่อให้กัน การบริหารประเทศต้องมีความต่อเนื่อง ต้องมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ การแสดงออกแบบนี้แสดงให้เห็นชัดว่าผู้นำประเทศต้องการอำนาจต้องการผลัดเปลี่ยนกันนั่งเก้าอี้เท่านั้นเอง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้คำนึงถึงภาพลักษณ์สังคมโลก
ส่วนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะเป็นปัญหาในการทำงานกับพรรคอื่นหรือไม่ นายพิจารณ์ ระบุว่า ความแตกต่างระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคอื่น คือ การพูดและสามารถแตะได้ทุกปัญหาซึ่งพรรคมีความชัดเจนเรื่องนี้ เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ถูกปล่อยทิ้งให้โดดเดี่ยว และพรรคจะเป็นตัวเลือกหนึ่งให้กับประชาชน
ทั้งนี้ปัญหาการบังคับใช้มาตรา 112 อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ดังนั้น นี่คือหนึ่งในนโยบายเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ตนคิดว่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งให้กับประชาชน ไม่คิดว่าพรรคก้าวไกลจะถูกทิ้งไว้ให้โดดเดี่ยวมันคือการทำให้ประชาชนเห็นถึงเจตจำนงค์และความกล้าหาญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
