นายกฯ ตั้งเป้าสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5 แล้วเสร็จปี 2024 เป็นของขวัญประชาชน 2 ประเทศ ฉลองสัมพันธ์การฑูต 75 ปี ยกระดับคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ -บอลิคำไซ ฝั่งไทย โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในนามรัฐบาลไทย ความรู้สึกเป็นเกียรติในการเป็นประธานร่วมกับนายพันคำ ในการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิไซ
ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำคัญในการที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและถือเป็นความคืบหน้า ตามที่ตนและนายกพันคำได้มีการหารือไว้ ในช่วงที่นายพันคำ ได้มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีความสัมพันธ์ไทยและสปป.ลาว มีความสัมพันธ์ที่พิเศษเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน ในทุกระดับ ได้มีการดูแลช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันมาโดยตลอดด้วยความเข้าใจและความเคารพซึ่งกันและกัน ดังที่นายพันคำเคยกล่าวไว้ว่า ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ กินข้าวร่วมนากินปลาร่วมน้ำ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันตลอดมา
นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า พิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5 ในครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพเหมือนดังชื่อของสะพานและเป็นความภาคภูมิใจของทั้ง 2 ประเทศที่ได้ร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันมาโดยตลอด และยังถือเป็นแบบอย่างของความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม หลังจากที่ไทยและสปป.ลาวได้เปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ ด้วยการยกระดับความสัมพันธ์เป็น หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยมีเป้าหมายสำคัญ ให้ทั้ง 2 ประเทศก้าวไปข้างหน้าและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองฝ่าย
รัฐบาลไทยถือว่า สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5 เป็นโครงการยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการเชื่อมต่อกับสปป.ลาว และภูมิภาค อีกทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของสปปลาวที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของภูมิภาค สะพานแห่งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนไปมาหาสู่กันง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มทางเลือกในการคมนาคมขนส่งระหว่างไทยและสปป.ลาว นอกจากนี้ ยังจะช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคระหว่างไทยลาวเวียดนาม บนเส้นทางหมายเลข 8 และสามารถเชื่อมต่อไปยังจีนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น จะทำให้การค้าขายภายในภูมิภาคคล่องตัวและเจริญก้าวหน้า
ขณะเดียวกัน การก่อสร้างสภามิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5 นี้ เกิดขึ้นในจังหวะที่สำคัญที่ไทยและสปป.ลาวกำลังเร่งฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างกันอย่างเต็มที่ หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 สถานการณ์นั้นคลี่คลาย โดยสะพานแห่งนี้จะสามารถช่วยรองรับการค้าระหว่างประเทศที่จะเพิ่มขึ้น ได้ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทย และตอนกลางของสปป.ลาว โดยเฉพาะจ.บึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซ ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยและ สปป.ลาว เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่นมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่และการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนทั้งสองฝั่ง
ต้องขอขอบคุณรัฐบาลสปป.ลาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ของทั้งฝ่ายไทยและสปป. ลาวที่ได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ให้มีความคืบหน้าและเตรียมงานพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับทั้งสอง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ จะเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดในปี 2024 และเป็นของขวัญสำคัญให้กับชาวไทยและชาวสปปลาวได้ชื่นชมในโอกาสครบรอบ 75 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยและสปป.ลาวในปีพ.ศ 2025 โดยรัฐบาลไทยจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลสปป.ลาวในการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไทยลาวให้มีความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนยิ่งขึ้นโดยเฉพาะมุ่งเน้นการส่งเสริม ความร่วมมือที่มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม รวมการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และคุณภาพชีวิต ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้วางอิฐ จำนวน 9 ก้อน ซึ่งถือเป็นสิริมงคลมีทั้งเงิน ทอง และนาค จากนั้นได้เทปูน และวางกล่องพลอย 9 สี แสดงถึงความรุ่งเรือง และวางแผ่นศิลาฤกษ์ โดยนายพันคำ ได้โปรย ข้าวตอกดอกไม้และธัญพืช 9 ชนิดบนแผ่นศิลาฤกษ์เพื่อเป็นสิริมงคลและเป็นความเจริญรุ่งเรืองของทั้ง 2 ประเทศ และนายกรัฐมนตรีได้ลั่นฆ้อง 9 ครั้งเพื่อเป็น สัญญาณเริ่มต้นในการสร้าง โครงการสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews