Home
|
ข่าว

“วิษณุ” เผยครม.เห็นชอบกฎกระทรวงเปิดช่องสุราพื้นบ้าน

Featured Image
“วิษณุ” เผยครม.เห็นชอบกฎกระทรวงเปิดช่องสุราพื้นบ้าน ลดภาระประชาชน ชี้ ไม่กระทบรายได้ประเทศ ระบุฉบับพรรคก้าวไกลไม่มีความจำเป็น

 

 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 สำหรับผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้นำเข้าสินค้าสุรา ว่า เป็นกฎหมายเดิมที่มีชื่อว่าพ.ร.บ.สรรพสามิตที่ออกมา ปี 2560 ต่อมาได้มีการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ากฎหมายมีความรัดกุมมากเกินไป จึงมีการออกกฎหมายใหม่เพื่อให้ผ่อนคลายลง อย่างฉบับของพรรคก้าวไกลที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ต่อมารัฐบาลได้รับมาพิจาณา

 

ซึ่งได้มาพิจารณาดูอีกครั้ง พบว่ากฎหมายเมื่อปี 2560 มีความเข้มงวดมากเกินไป และกฎหมายของฝ่ายค้านหย่อนมากเกินไปนั่นคือความอันตรายต่อผู้บริโภค อันตรายต่อผู้ผลิตและกระทบต่อภาษีรายได้ของประเทศ จึงหาวิธีมาพบกันครึ่งทาง ทางกฤษฎีกาจึงแนะว่า ไม่ต้องออกพระราชบัญญัติให้ออกเป็นกฎกระทรวงได้ ซึ่งมีความเข้มงวดน้อยลง ซึ่งเกือบจะเท่ากับหลักเกณฑ์ที่พรรคก้าวไกลเสนอ

 

ดังนั้นกรมสรรพสามิตจึงได้ยกร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมา ซึ่งครม.ได้พิจารณาแล้ว และส่งต่อไปยังกฤษฎีกา ให้กฤษฎีกาไปดูและมีความเห็นว่ายังไม่รัดกุม จึงออกเป็นกฎกระทรวงฉบับที่ 2 วันนี้คณะรัฐมนตรีจึงได้เห็นชอบแล้ว และจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกฎหมายของฉบับพรรคก้าวไกลถือว่าไม่มีความจำเป็น เพราะว่ามีสิ่งที่ดีที่เกือบจะเท่าเทียม

 

นายวิษณุ ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาชิงไหวชิงพริบ และไม่ใช่การแก้เกม หรือตัดหน้าอะไรกับสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้กฎหมายฉบับนี้มากว่า 6 เดือนแล้ว ก่อนหน้าพรรคก้าวไกลจะเสนอเข้ามา ซึ่งหากมองเป็นเรื่องการเมืองก็เป็นการชิงไหวชิงพริบได้ทุกเรื่อง แต่จุดประสงค์ต้องการให้มีกฎเกณฑ์เพื่อผ่อนปรน เพื่อส่งผลให้สุราที่ไม่มีทางการค้า อย่างสุราพื้นบ้านที่มีอยู่ 3 เหตุผล คือ 1.เป็นการรักษาภูมิปัญญาชาวบ้าน 2.ไม่ได้ทำให้รายได้รัฐบาลลดลง และ 3.เพื่อทำให้ผู้ประสงค์ที่จะผลิตสุราสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาต สร้างภาระแก่ประชาชน ซึ่งนายวิษณุย้ำว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวหย่อนลงกว่าครึ่งของฉบับปี 2560

 

นอกจากนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงอาหารที่จะเลี้ยงแขกภายในงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ว่า มีอยู่ 3 ระดับ ระดับที่ 1 เป็นระดับผู้นำที่นั่งเก้าอี้ 21 เขตเศรษฐกิจ โดยมีเชฟชุมพล ทำอาหารที่มาจาก 4 ภาค เช่น ข้าวซอย ระดับที่ 2 เป็นระดับรัฐมนตรี เป็นอาหารที่ลดระดับลงมาจากผู้นำ และระดับที่ 3 เป็นผู้ติดตาม

 

ส่วนได้ชิมแล้วเป็นอย่างไรบ้างนั้น นายวิษณุ ระบุว่า กินได้ อย่างไรก็ดีกว่ากินข้าวแกง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube