นายกฯ แจงซักฟอก ยัน แจงบัญชีทรัพย์สินแล้ว ย้ำไม่ชอบเล่นการพนัน กำชับทุกฝ่ายปราบปรามเสมอ ย้ำไม่กลัวซักฟอก บอกรักทุกคนแม้คนไม่รัก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นอภิปรายครั้งแรก ในช่วงเวลาประมาณ 15.40 น. (นายกฯแจงซักฟอก) หลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.พรรคเสรีรวมไทยอภิปราย โดยชี้แจง ว่า ตลอดกาลเป็นนายกรัฐมนตรี 6 ปี ตนทราบกฎหมายดี และได้มีการแจ้งทรัพย์สินเพิ่มเติมไปแล้ว
ส่วนเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์นั้น สิ่งที่นำเสนอสภาถือเป็นข้อมูลดิบเท่านั้น จะต้องมีการหาข้อมูลหลักฐาน พยานบุคคล เข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง แต่ยินยันว้าตนไม่ได้ทำตามที่กล่าวอ้าง
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงกรณีสถานการณ์โควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับบอลการพนันและการพนันออนไลน์ ว่า ไม่ได้ทำอย่างที่กล่าวอ้าง และส่วนตัวแล้วตนเองไม่ได้ชื่นชอบการเล่นพนันในรูปแบบใดทั้งสิ้น และทราบดีว่าการพนันเป็นเรื่องที่ต้องกำจัดให้หมดสิ้น จึงได้มีการสั่งการเสมอกำกับดูแลและติดตามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานฝ่ายปกครองเข้มงวดกวดขันไม่ให้เกิดการพนันในพื้นที่ที่รับผิดชอบ หากจับบ่อนการพนันในพื้นที่ใดได้ ผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวจะต้องรับผิดชอบ
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการจับบ่อนการพนันเป็นจำนวนมาก และสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ดูแลรับผิดชอบตั้งแต่รองผู้การจนถึงระดับผู้การไปแล้ว 51 ราย และสั่งสอบหาข้อเท็จจริงว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ หรือจงใจปล่อยให้เกิดบ่อนการพนันหรือไม่หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องจริงจะต้องโดนลงโทษสถานหนัก ซึ่งส่วนตัวไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรก็สามารถจับได้ทั้งหมดเพราะฉะนั้นอย่ามาอ้างว่าตนได้รับผลประโยชน์ขออย่าหมิ่นประมาทกัน เพราะหากไม่ใช่เรื่องจริงตนก็จะไม่ยอม
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีการจับ เสี่ยโป้ โป้อานนท์ และกวาดล้างบ่อนการพนันทั้งบ่อนจังหวัดระยอง จันทบุรี สมุทรปราการ และการพนันออนไลน์ ตอนนี้ นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า การจับกุมไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างต้องใช้เวลา เพราะสมัยนี้หลายอย่างพัฒนาไปมากแล้ว ใครกล่าวหาว่าตนเองเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ “สุทิน”ซักฟอกนายกฯปมทุจริตเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ขอยืนยันว่า ตนไม่เกี่ยวข้องไม่เคยเรียกรับแม้สักบาท เงินชั่วๆ ตนไม่รับ จะรับแต่สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายเท่านั้น
นายกฯ ย้ำไม่กลัวซักฟอก ยินดีร่วมประชุม เชื่อเป็นโอกาสที่ดีทั้งสองฝ่ายร่วมมือทำเพื่อประเทศ บอกรักทุกคนแม้คนไม่รัก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในช่วง ว่า ยินดีที่ได้มาร่วมประชุมสภาเพราะคิดถึงและไม่ได้หวาดกลัวอะไรทั้งสิ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมมือกันทำเพื่อประเทศชาติ พร้อมฝากไปยังประชาชนให้รับฟังและเชื่ออย่างมีเหตุผล หากฝ่ายใดมีข้อมูลที่ชัดเจน
หลายโครงการที่ออกมาอาจจะมีการวิจารณ์ว่า ไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนก็ได้สั่งทบทวน และบางโครงการก็ไม่สามารถอนุมัติได้ แต่ย้ำว่า ตนเอง เห็นใจและเข้าใจประชาชนอย่างแท้จริง ตนเองเป็นผู้บังคับบัญชาทหาร ก็รักทุกคน วันนี้มาเป็นนายกฯ ก็รับคนไทยทั้ง 77 ล้านคน ไม่ว่าใครจะไม่รักตน แต่ตนก็รัก เพราะเกิดในผืนแผ่นดินไทย เกิดบนผืนแผ่นดินนี้ ก็ต้องตายบนผืนแผ่นดินนี้ เพราะนั่นคือคนไทย
“เสรีพิศุทธ์” พุ่งเป้า นายกฯ ปราบปรามบ่อนการพนันล้มเหลว ย้ำถามเหตุใดรัฐบาลจึงปราบปรามไม่ได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายพุ่งเป้าไปที่การปราบปรามบ่อนการพนันของรัฐบาลที่ล้มเหลว โดยยกคำพูดของนายกรัฐมนตรีที่ ระบุว่า ต่อให้มีนายกรัฐมนตรี 100 คน ก็ไม่สามารถปราบได้ แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้นำเสนอผลงานของตนเองสมัยที่เข้าปราบปรามบ่อนประตูน้ำปี 2549 ทำให้ ส.ส.ฝั่งรัฐบาลลุกขึ้นประท้วงหลายครั้งว่า ไม่ใช่เวลาการโชว์ผลงาน ควรอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมากกว่า
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ยังย้ำว่า เหตุใดรัฐบาล จึงปราบปรามไม่ได้ เพราะตนเองทำได้อีกทั้งบ่อนการพนันครั้งนี้ ยังเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ด้วย
ขณะเดียวกัน นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ขอให้ผู้อภิปราย ปล่อยหมัดเด็ดที่เป็นประเด็นอภิปราย ไม่ใช่การเล่าย้อนถึงอดีต
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย ฝ่ายค้านยังคงอภิปรายต่อเนื่อง โจมตีการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรียังไม่ได้ขึ้นชี้แจงแต่อย่างใด
“เสรีพิศุทธ์” ตั้งข้อสงสัยนายกฯเกี่ยวข้องผลประโยชน์บ่อนการพนันหรือไม่
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ถึงประเด็นที่เกี่ยวกับบ่อนการพนัน ว่า 1.ทำไมบ่อนการพนันรายใหญ่จึงอยู่ยั่งยืนยง 2.การจับกุมบ่อนการพนันรายใหญ่ 3.ผลประโยชน์การพนันมากน้อยเพียงใด 4.ใครได้รับผลประโยชน์จากบ่อนพนัน 5.บ่อนการพนัน พระราม 3 6.บ่อนการพนันภาคตะวันออก 7.วิธีการแสวงหาประโยชน์จากบ่อนการพนัน 8.ผู้ที่รับผลประโยชน์จากบ่อนการพนัน และ 9.ประเด็นการแต่งตั้งข้าราชการเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ และการปล่อยให้มีการแพร่ของโรคระบาดโควิด-19
ทั้งนี้ ได้กล่าวถึงผลประโยชน์ของบ่อนการพนัน และใครได้รับผลประโยชน์ จากบ่อนพนันนั้น เจ้าของบ่อนการพนันในอดีตมีรายได้ต่อเดือนนับ 200 ล้านบาท ซึ่งต้องแบ่งไปยังหน่วยงานในระดับต่างๆ ตั้งแต่ท้องถิ่น อบต. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปจนถึงนายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเอาด้วยหรือไม่เอาด้วย ขณะที่ประเด็นบ่อนพระราม 3 ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ใน กทม. ไม่มีบ่อนการพนัน แต่ท้ายที่สุดผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทนกระแสกดดันของสังคมไม่ไหว ต้องออกมายอมรับว่า มีบ่อนการพนันอยู่จริง จึงทำให้สงสัยว่า นายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของบ่อนการพนันหรือไม่ รวมถึงบ่อนการพนันภาคตะวันออก นายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
“ศักดิ์สยาม” แจง”สุทิน” ค่าโง่โฮปเวลล์ รัฐบาล ไม่นิ่งนอนใจ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทาวงคมนาคม ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ต่อข้อซักถามของนายสุทิน คลังแสง ว่า ทำไมรัฐบาลเพิ่งจะมาดำเนินการค่าโง่โฮปเวลล์ ว่า หลังจากมีคำวินิจฉัย กระทรวงคมนาคม ได้หารือข้อกฏหมายแล้ว นำเรื่องยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รื้อคดีนี้
ส่วนเรียกการค่าสินไหมนั้น มีกำหนดอายุของคดี 2 ปี จึงขอให้นายสุทิน หรือประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ได้กำชับ ว่า ให้ดำเนินตามกฏหมาย และรัฐบาลนี้ไม่มีวันทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูกอย่างเด็ดขาด
ขณะเดียว กันได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อตรวจสอบตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรก ในวันที่ 25ก.พ.นี้
“วิษณุ” แจง ค่าโง่โฮปเวลล์ รัฐยังไม่เสียหาย เพราะยังไม่ได้จ่าย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเสริมในประเด็นการฟ้องร้องรัฐเรื่องค่าโง่โฮปเวลล์ แต่รัฐแพ้และต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน แค่เกิดความข้องใจของสังคม ว่าทำไมรัฐไม่มีการดำเนินการตั้งกรรมการตรวจสอบ เพื่อหาคนรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งในส่วนของอายุความ 2 ปีในอีกไม่กี่เดือนจะครบและขาดอายุความเป็นความจริง
นายวิษณุ ชี้แจงว่า ความจริงมาตรา 9 ต่างกันกับมาตรา 10 ว่า เมื่อหน่วยงานของรัฐได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายไปแล้วให้มีสิทธิ์ฟ้องไล่บี้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นต้นเหตุภายในอายุความ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีชำระค่าเสียหาย แต่รัฐยังไม่เคยมีการจ่ายค่าเสียหาย แม้แต่บาทเดียว ดังนั้นการที่รัฐบาลจะไล่บี้กับเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่ง ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากยังไม่มีการชำระเงินเลย ตอนนี้รัฐจึงไม่เสียหาย
ส่วนกรณีการพาดพิงรัฐมนตรีทั้ง 7 คน เรื่องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามกฎหมาย ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดยบอกว่า มีหลายคนอาศัยอานิสงส์ของกฎหมายที่เขียนไว้ว่า “ถ้าเคยมีตำแหน่งใดมาก่อนและมาดำรงตำแหน่งใหม่ระยะเวลาต่อกัน 1 ปี ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน”
ซึ่ง 1 ใน 7 รายชื่อดังกล่าวนั้นอย่างน้อยนายกรัฐมนตรีและตนเองได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินเหมือนรับตำแหน่งใหม่ทุกประการ ตามแบบฟอร์มภายในกำหนดเวลา ส่วน ป.ป.ช. จะมีการ แสดงให้ดูหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. จึงขอยืนยันตรงนี้ว่า ตนเองได้ทำหน้าที่ เหมือนรัฐมนตรี อีก 30 กว่าคน ที่เข้ามาภายในกำหนดเวลาเดียวกันทุกประกาศ ซึ่งตนเองไม่อยากให้ใครเข้าใจขัดเคลื่อน
ส่วนประเด็นสุดท้ายนั้นเครดิตกับต่างประเทศ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหน้าตาของรัฐบาล หรือคนใดคนหนึ่งแต่เป็นหน้าตาของประเทศนั้น และประเทศไทยจะมีเครดิตดีหรือไม่นั้น การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียนในเวลาที่ผ่านมาได้รับการยกย่อง
“อนุพงษ์” แจงมท.ไม่ยุ่งเกี่ยวอาชญากรรมทุกอย่าง สั่งการติดตามเรื่องยาเสพติดและค้ามนุษย์ต่อเนื่อง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงปัญหาบ่อนการพนัน ที่ฝ่ายค้านมีการอภิปรายเชื่อมโยงถึงกระทรวงมหาดไทย ว่าปล่อยปละละเลยการจับกุม ว่านโยบายกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการในกระทรวงไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาชญากรรมทุกอย่าง ไม่ใช่เพียงเรื่องบ่อนการพนัน
ส่วนเรื่องยาเสพติด หรือปัญหาการค้ามนุษย์ ได้มีนโยบายแน่ชัดในการสั่งการ และติดตามการสั่งการในพื้นที่ว่าได้มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง และยืนยันไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด ซึ่งผลงานของกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการกับบ่อน สถานบันเทิง การค้ามนุษย์ รวมถึงกรณีจับบ่อนการพนันที่จังหวัดระยอง เมื่อปลายปีที่ผ่านมาโดยหลังจากนี้จะเร่งรัดอย่างเต็มความสามารถเพื่อทำให้แผ่นดินนี้ไม่ให้มีอาชญากรรม และการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ได้คำนึงก็ฐานข้อมูลเป็นหลัก ส่วนเรื่องการใช้งบประมาณภัยแล้ง หากไปเข้าเงื่อนไขการเจตนาที่จะทุจริตคอรัปชั่นพล.อ.อนุพงษ์ ยืนยันจะไม่นิ่งเฉยและดำเนินการ
พร้อมกันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจง การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้ การดำรงตำแหน่งต่อเนื่องไม่ต้องยื่นใหม่ ก่อนจะยืนยันว่าได้ดำเนินการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ทันตามกรอบเวลา ส่วนการประกาศหรือไม่เป็นกรอบอำนาจของ ป.ป.ช.
“สมศักดิ์” ย้ำ นายกฯไม่เคยใช้โทรศัพท์สั่งให้ช่วยบ่อนการพนันตามที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้าง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขึ้นชี้แจงหลังได้รับการพาดพิงกรณีนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์สั่งการให้ช่วยบ่อนการพนัน ว่า นายกรัฐมนตรี ไม่เคยสั่งการเกี่ยวกับเรื่องบ่อนการพนันใด ๆ ทั้งสิ้นและในการทำงานของนายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้โทรศัพท์สั่งการตามที่เป็นข่าวตามที่กล่าวอ้าง
จากนั้น นายสุรพันธ์ อมรวิวัฒน์ พรรคเพื่อไทย ขึ้นประท้วงรัฐมนตรีที่ตอบ โดยมองว่า หลายท่านไม่ได้ถูกพาดพิง จึงมองว่านายกรัฐมนตรีด้อยประสิทธิภาพที่ให้ ฐมนตรีคนอื่น ๆ ชี้แจงแทน
นายสมศักดิ์ จึงชี้แจงต่อในประเด็นที่นายกรัฐมนตรี สั่งการเกี่ยวกับเรื่องงานยาเสพติดให้คิดใหม่ ทำใหม่ ที่นายกรัฐมนตรี มีนโยบายว่าให้ตัดตอนขบวนการค้ายาเสพติด โดยมีเป้าหมายสามารถยึดทรัพย์ได้ ปีละ 6 พันล้านบาท
“ดอน” ย้ำ หากไม่ได้รับการยอบรับจากต่างประเทศคงอยู่ไม่ถึง 6 ปี ชี้นายกฯย้ำรมต.เสมอให้นึกถึงผลประโยชน์ประชาชน
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงถึงกรณีการยอมรับจากต่างประเทศ ว่า หากไม่มีการยอมรับจากต่างประเทศคงอยู่ไม่ได้นานถึง 6 ปี จนถึงทุกวันนี้ ซึ่ง 6 ปีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเยือนหลายประเทศ โดยทางการเปิดประตูให้นายกรัฐมนตรีไปเยือนกว่า 27 ประเทศ ซึ่งเป็นการเยือนในลักษณะการไปทำงานอย่างเป็นทางการ เป็นการประชุมระหว่างประเทศ และตามการเชิญเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีกองเกียรติยศ แต่เป็นธรรมเนียมของแต่ละประเทศว่าจะให้แค่ไหนอย่างไร แต่หลายๆประเทศก็มีกองเกียรติยศ เช่น ในฝรั่งเศส และจีน แต่องค์ประกอบสำคัญว่าจะให้การต้อนรับ คือ ขบวนรถนำ การรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ประสานงาน ทุกอย่างครบองค์ประกอบหมดทุกครั้งในการไปเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี โดยตลอด 6 ปีที่ผ่านมาก็มีการเรียนในระดับรัฐมนตรีกว่าหลายร้อยครั้ง ถือได้ว่าเป็นการยอมรับของต่างประเทศ และการเดินทางไปพบต่างประเทศสิ่งสำคัญคือคำเชิญ ไม่ใช่ไปอย่างที่อยากไปกันเองหรือไปเองได้
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.60 สหภาพยุโรปได้ออกแถลงการณ์ปรับความสัมพันธ์กับประเทศไทยเป็นเรื่องปกติ นี่คือการยอมรับของ 28 ประเทศของสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ยังมีการยอมรับผลงานของนายกรัฐมนตรีที่สื่อต่างประเทศรวบรวมไว้ เช่น Bloomberg ที่ ระบุว่าประเทศไทยเหมาะสมที่สุดที่จะทำธุรกิจสตาร์ทอัพรวมไปถึงได้รับการจัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากน้อยที่สุด จาก 60 ประเทศทั่วโลก และมีระบบสุขภาพที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ นายดอนระบุอีกว่า นายกรัฐมนตรีทิ้งท้ายให้คณะรัฐมนตรีเสมอว่า ทุกครั้งที่จะมีการประชุม หรือดำเนินกิจกรรมต่างๆประชาชนได้อะไรจากกิจกรรมเหล่านั้นผลประโยชน์ของประชาชนมีอะไรบ้าง ซึ่งเสมือนเป็นการบ้านที่ต้องคำนึงถึงตลอดเวลา แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ ภาพพจน์ของคนไทยเมื่อไปประชุมระหว่างประเทศมีกรอบระยะเวลา ต้องไม่เกินกรอบระยะเวลา ขณะเดียวกัน ขณะนั่งฟังการประชุมจะต้องไม่ลุกไปไหน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news