“พิธา” ยัน ส.ส.ลาออกไม่กระทบฐานเสียง บอกมีคนมาแทนแล้ว มองรอยร้าวภูมิใจไทย-ปชป. ไม่ปรับครม.เป็นสัญญาณยุบสภา ย้ำไม่จับมือ พปชร.เด็ดขาด
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส. กทม.ของพรรคลาออก โดยยืนยันว่า ไม่กระทบฐานเสียง เพราะมีว่าที่ผู้สมัครคนใหม่เข้ามาแทนแล้วซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นกับทุกพรรค เพราะเป็นเรื่องระเบิดเวลาของรัฐธรรมนูญที่ทำให้เป็นปัญหา แต่ไม่ใช่ข้ออ้างพรรคก้าวไกลจึงต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งที่ผ่านมาพรรคก็มีการคัดกรองผู้สมัครอย่างเข้มข้นทั้งจากทางพรรค และจากการตรวจสอบของประชาชนในพื้นที่ต้องหาคนที่มีอุดมการณ์หนักแน่น ขณะเดียวกันก็ต้องมีประสิทธิภาพต่อการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ที่จับต้องได้ ส่วนการรักษาฐานเสียงในพื้นที่กทม. นายพิธา ยอมรับว่า ต้องหาว่าที่ผู้สมัครเลือดใหม่ที่เข้มข้นกว่าลงพื้นที่ต่อเนื่องที่สำคัญประชาชนต้องชอบและเชื่อมั่น
นายพิธา ยังยอมรับว่า ร้อยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะจากพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ จากกฎหมายกัญชา กัญชง เป็นหนึ่งในสัญญาณการยุบสภารวมถึงการปรับครม.แทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ แม้บางพรรคจะส่งรายชื่อไปแล้ว แต่ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตามช่วงนี้จะมีการจัดประชุมเอเปครวมถึงบอลโลกช่วงเดือนธ.ค.อาจทำให้อุณหภูมิทางการเมืองลดลง
ส่วนหลังเลือกตั้งสมการทางการเมืองอาจเปลี่ยนแปลงไป หากเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกลจะร่วมด้วยหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า ไม่ขอวิจารณ์พรรคเพื่อไทยแต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะต้องการผลักดันนโยบายที่เป็นของพรรค ตอนนี้ยังไม่มีการหารือในคณะกรรมบริหารถึงเงื่อนไขการจับมือร่วมรัฐบาลต้องรอใบสั่งจากประชาชนหลังเลือกตั้ง แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคก้าวไกลร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐนั้น เป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะมีความต่างทางอุดมการณ์ชัดเจนอีกทั้งเป็นพรรคที่สืบทอดอำนาจมาจากเผด็จการ ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆนั้น ต้องเอาเงื่อนไขเป็นตัวตั้ง ส่วนพรรคการเมืองกลางๆที่เป็นพรรคสีเทาอยู่ระหว่างดำกับขาวต้องดูกันอีกครั้งต้องดูตามหลักความจริงของการเมือง
ส่วนหากพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐจับมือกันจริง พรรคก้าวไกลจะร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ นายพิธา ระบุว่า เป็นเพียงสมมุติฐาน และยังไม่เห็นความชัดเจนจากเพื่อไทยหากตอบไปก่อนก็เป็นการข้ามขั้นในสิ่งที่ยังไม่เกิด แต่ก้าวไกลยินดีร่วมกับพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ยินดีร่วมกับพลังประชารัฐ ส่วนเพื่อไทยกับพลังประชารัฐจะจับมือจริงหรือไม่ย้ำว่ายังเป็นเพียงสมมุติฐานที่ไกลไป
ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์ แยกทางกับพล.อ.ประวิตร จะมีความเป็นไปได้ที่ก้าวไกลจะร่วมงานพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายพิธา ย้ำว่าทำงานร่วมไม่ได้แน่นอน เพราะเป็นนายกคนละครึ่งที่อยู่ได้ 2 ก็หมดอายุไม่มีประสิทธิภาพแน่นอน และรักษาอำนาจไม่ได้แน่นอน
ทั้งนี้กรณีที่ก้าวไกลถูกพรรคไทยภักดี ร้องยุบพรรคจากการเดินหน้าแก้ไขมาตรา 112 นายพิธา ระบุว่า ไม่สามารถทิ้งประชาชนที่ถูกจับได้ และเรื่องนี้ต้องผลักดันต่อในสภาเรื่องนี้พรรคทำมาตั้งแต่ปี 2564 ไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำเพื่อหาเสียง แต่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะ ส.ส. เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพ และทำให้สถาบันฯ เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ได้ ซึ่งมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรนำมาเป็นเส้นแบ่งทางการเมือง ควรแข่งขันกันเรื่องนโยบาย ซึ่งไม่กังวลว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่การยุบพรรค เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีน้ำหนักพอ แต่พรรคก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจึงไม่ประมาทมีทีมกฎหมายในการทำงานอยู่แล้ว และแม้ว่าพรรคก้าวไกลจะผลักดันเรื่องนี้เพียงพรรคเดียวก็จะเดินหน้าต่อแม้จะโดดเดี่ยว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews