นายกฯแจงสภาห่วงม็อบรุนแรงโวเราชนะช่วยคน
นายกรัฐมนตรี แจงสภา ยันไม่ได้ใช้ ม.44 ปิด เหมืองทองอัครา ย้ำให้ความสำคัญสุขภาพประชาชน – ม็อบต้องไม่ละเมิดคนอื่น ชุมนุมอย่าใช้ความรุนแรง โครงการเราชนะช่วยคนเดือดร้อนโควิด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจง หลังถูกอภิปราย กรณี เหมืองทองอัครา ว่าเรื่องนี้เริ่มต้นจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ ใช้ช่องทางตามกฎหมายระหว่างประเทศฟ้องร้อง ซึ่งรัฐบาลไทยได้ต่อสู้ในสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและความไม่ปลอดภัยด้านสุขภาพ รวมถึงการใช้พื้นที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาต่อสู้ตามกติกาของกฎหมายตามกติกาสากล ที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกอยู่ โดยการต่อสู้คดี ต้องใช้งบประมาณในการใช้ต่อสู้ตามขั้นตอนกฎหมาย และเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลหรืออนุญาโตตุลาการ ดังนั้นการที่ฝ่ายค้านนำมาพูดข้าง และให้ข่าวกับสื่อหลายครั้งเป็นอันตราย เพราะเป็นการคาดการณ์ข้อมูลเองยังไม่ได้ข้อยุติ
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปปิด เหมืองทองอัครา แต่มีคำสั่งไปถึงทุกเหมืองในประเทศไทย ในการต่อสัมปทานจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามข้อเรียกร้องของประชาชน พร้อมย้ำว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์แต่เป็นการมองผลประโยชน์ของชาติและประชาชน และไม่ได้แก้ปัญหาด้วยการใช้อำนาจออกคำสั่ง แต่เป็นการหารือหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก
นายกฯ ชี้แจง สภา โครงการเราชนะช่วยคนเดือดร้อนโควิดหนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ยันไม่ขึ้นภาษี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจง นางสาวจิราพร สินธุไพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องเรือดำน้ำต้องแยกแยะสถานการณ์โควิดคือโควิด ความมั่นคงคือความมั่นคง แยกแยะออก หลายมิติ เพราะคนมีหลายระดับมีความเท่าเทียมเสมอ ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพปกป้องประเทศ และ เรือดำน้ำมีเพื่อปกป้องท้องทะเลของไทย ทรัพยากร การประมง และกระบวนการค้ามนุษย์ อพยพโรฮินจา สงครามอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะการแย่งชิงดินแดน และผลประโยชน์ตามธรรมชาติ
ส่วนที่ถามว่าทำไมไม่ตัดงบความมั่นคง เพราะไม่มีการสู้รบ แต่ที่มีความสงบได้ เพราะไทยมีขีดความสามารถ มีการพัฒนาตลอด ขออย่าคิดสั้นๆ ให้เจอเองแล้วจะรู้ว่าจะอยู่กันอย่างไรในวันข้างหน้า ทุกวันนี้มีผลการต้องผ่อนชำระเรื่องจำนำข้าว กว่า 705,000 ล้านบาท ต้องตั้งงบชดใช้ไปอีก 12 ปี ซึ่งน่าเสียดาย ขณะที่ปัญหาหนี้สาธารณะรัฐบาลต้องรักษา แต่ไม่ควรที่รัฐจะต้องแบกแบบนี้ทุกรัฐบาล เพราะเงินมาจากภาษีประชาชน รัฐบาล
ไม่อยากรีดภาษีจากใคร มาตรการเยียวยาที่ออกมาเพียงแค่ทำให้คนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งโครงการคนละครึ่งเป็นการต่อยอด เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนใช้เงินในระบบ ทุกคนอาจจะต้องอยู่อจ่างพอเพียง เงินกว่า 500,000 ล้านบาท ก็เป็นเงินเอามาช่วยประชาชน
วันนี้ดำเนินการ ” ไทยชนะ ” ใครแพ้ หรือ ใครชนะไม่รู้ และคำว่าชนะไม่ได้หมายความว่าให้นายกรัฐมนตรีอยู่ ให้ชนะ หรือ มีอำนาจ พูดกันเหลือเกิดอำนาจแต่ทำไมไม่อยู่กันด้วยความเข้าใจ ร่วมมือกัน เพื่อประชาชนและประเทศ ซึ่งยอมรับว่า การดูแลนั้นติดเรื่องงบประมาณ ส่วนโครงการ ม.33 เรารักกัน ถ้ามีเงินอีกก็ต้องทยอยเอาเงินมาให้ประชาชน จะให้ไปบังคับธนาคารไม่ได้
นายกฯ แจงสภาม็อบต้องไม่ละเมิดคนอื่น ชุมนุมอย่าใช้ความรุนแรง หากคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่มีการชุมนุมอยู่หนาแน่น ซึ่งทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า ม็อบก็ชอบยุแหย่จนชิน ใช้กำลังต่อต้านกฎหมายจะมีความสุขหรือไม่ ซึ่ง ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่และอยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต้องไม่ละเมิดคนอื่น จะชุมนุมก็อย่าใช้ความรุนแรง แผนดินนี้มีความศักดิ์สิทธิ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “จะไม่ชอบตนไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ชอบประเทศของท่านไม่ควร เพราะประชาชนคือประชาชนของเรา ที่ต่างฝ่ายก็รักกัน ทั้งคู่ คำว่ารักประชาชนต้องไม่เลือกว่าใครเป็นใคร กฏหมายจะดำเนินการอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนอยู่อย่างปกติในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยแบบไหนก็ตามต้องมีกฎหมาย ซึ่งทำให้สังคมสงบเรียบร้อย”
ก่อนจะกล่าวเป็นบทกลอนว่า “ศึกนอกศึกไกล นั้นไม่ห่วง แต่วันทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง หากคนไทยหันมาฆ่ากันเองเราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news