ผบ.ตร.ตรวจศูนย์สื่อเอเปค ชี้พอใจภาพรวมรักษาความปลอดภัยผู้นำ บอกขอไปตรวจสอบก่อนเหตุผู้ชุมนุมถูกยิงเบ้าตา ระบุสื่อต้องช่วยตัวเอง เพราะชอบไปอยู่แนวหน้า-ไม่รู้มีประเทศไหนเป็นแบบนี้ เผยเจ้าหน้าที่เจ็บ 15 นาย สาหัส 1
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจศูนย์สื่อมวลชนบริเวณชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมกล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่การจัดงานเอเปค คาดว่าช่วงเที่ยงวันนี้จะเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมของผู้นำ ขณะนี้ทุกอย่างยังถือว่าอยู่ในความเรียบร้อย ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมวานนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุว่า ขั้นตอนการดำเนินการเป็นไปตามที่โฆษกฯ ตำรวจ ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประกาศทุกขั้นตอนว่า
การชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่สามารถชุมนุมได้ แต่การจะเคลื่อนที่นอกพื้นที่ชุมนุมต้องแจ้งการชุมนุม ซึ่ง บช.น. มีเงื่อนไข ซึ่งเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยและเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของประเทศในช่วงที่ผู้นำเดินทางมา จึงไม่อยากให้ออกเดิน แต่กลับมีความพยายามที่จะออกเดินและ เส้นทางที่ไปก็สุ่มเสี่ยงมุ่งตรงไปยังศูนย์สิริกิติ์ ตำรวจก็อาจมีการรั้งหน่วงในหลายจุดและเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา ซึ่งเป็นไปตามที่โฆษกฯตำรวจให้ข่าวไป และก็จะให้ บช.น. ตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกเรื่องต่อไป
สำหรับการข่าววันนี้ พบว่า จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี ส่วนจะต้องมีการวางกำลังเพิ่มเติมหรือไม่ ตนมองว่าเป็นไปตามการข่าวและหน้างาน เพราะตาม พ.ร.บ.ชุมนุม จะต้องมีการแจ้งก่อนการชุมนุม 24 ชั่วโมง หากกระทันหันก็เป็นอำนาจของผู้การในพื้นที่ ที่จะพิจารณาและดูเงื่อนไขต่างๆ ประกอบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งการชุมนุมที่เกี่ยวข้องในการประชุมเอเปค โดยขณะนี้ได้วางกำลังไว้ตามปกติ
ส่วนกรณีที่วานนี้ในเหตุรุนแรงมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เบ้าตานั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง เพราะยังไม่ได้รับรายงานที่ชัดเจน ทั้งนี้ยังได้รับรายงานตำรวจบาดเจ็บ 15 นาย โดยมี 1 นาย อาการสาหัส แอดมิดอยู่โรงพยาบาล ส่วนที่เหลือรับยากลับบ้านแล้ว ขณะที่ในส่วนผู้ชุมนุมมีบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ขอตรวจสอบอีกที
ส่วนกรณีที่สื่อบางสำนักออกแถลงการณ์ประณาม เหตุถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายสื่อมวลชนที่สวมปลอกแขนนั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องของสื่อมวลชนเราเคยมีการร้องต่อศาลแพ่ง โดยศาลได้ให้แนวทางจัดระเบียบกับสื่อมวลชน ซึ่งทุกอย่างต้องช่วยกันและต้องยอมรับว่า ในช่วงหลัง บางครั้ง เช่น บริเวณแยกดินแดงสื่อมวลชนจะเยอะกว่ากลุ่มผู้ชุมนุมด้วยซ้ำ จึงทำให้การจัดระเบียบค่อนข้างยาก และสื่อมวลชนก็พยายามที่จะอยู่บริเวณด้านหน้าของม็อบ
ซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปได้ยาก และก็ไม่มั่นใจว่าประเทศอื่นมีอย่างนี้ด้วยหรือไม่ พร้อมย้ำว่า หากมีการโต้ตอบของกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ สื่อมวลชนก็จะต้องช่วยตัวเองด้วย ต้องระมัดระวัง เพราะมันยากที่จะควบคุม พร้อมฝากให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วยเพราะเป็นสื่อมวลชนและยูทูปเบอร์ก็เยอะ ซึ่งไม่ได้อยู่ในแนวและไม่ได้แจ้ง พอมีเหตุการณ์สำคัญก็อาจจะผิดพลาดได้บ้าง ก็ต้องเป็นไปตามหน้างานว่าใครเป็นใครมีความผิดหรือไม่ก็ต้องไปตรวจสอบ
ขณะกรณีเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ คฝ.ยั่วยุกลุ่มผู้ชุมนุมโดยทำหน้าทำตาล้อเลียนนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า ตนยังไม่ได้เห็นภาพนั้น และหากเป็นจริง ก็คงต้องกำชับการปฏิบัติในกรอบกฎหมายเป็นสัดส่วน และเป็นเหตุเป็นผล แต่ว่าบางที หน้างานจริง อาจไม่ได้เป็นตามนั้น 100% ภาพทั้งหมด เราอาจจะไม่ได้เห็นในเหตุการณ์ก่อนหน้า ก็จะพยายามให้ บช.น. จัดทำไทม์ไลน์ขึ้นมา และตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนกรณีผู้ชุมนุมที่ถูกคุมตัวอยู่ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ผบ.ตร.เผยว่า ตนได้รับรายงานได้รับการประกันตัวไปเมื่อคืนเกือบทั้งหมด เหลือเพียงแกนนำบางส่วนเท่านั้น
ทั้งนี้ 4 วันที่ผ่านมามีการประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างไร ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนพอใจเพราะเป็นงานใหญ่ที่นานๆ จะจัดครั้งหนึ่ง อะไรถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงก่อความไม่สงบเราก็ถือว่า สามารถผ่านไปลุล่วงด้วยดี ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในอนุกรรมการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ซึ่ง ภาพรวมขนาดนี้ยังไม่มีความเสียหายอะไรต่อผู้นำ ส่วนจะให้มองว่าเราสามารถควบคุมทุกอย่างได้ดีหรือไม่ก็คงต้องให้คนอื่นประเมินด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews