Home
|
ข่าว

นายกฯ ต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เยือนไทยในรอบ 11 ปี

Featured Image
นายกฯ ต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เยือนไทยในรอบ 11 ปี เปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ กระชับความร่วมมือเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมโยง พร้อมร่วมมือเพื่อส่งเสริมภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้เจริญรุ่งเรือง

 

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเยือนไทย ในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค โดยผู้นำทั้งสองได้ร่วมกันหารือถึงการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือ นับเป็นการเยือนไทยในรอบ 11 ปี และเป็นการเยือนครั้งแรกนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

 

ทำให้การเยือนไทยของประธานาธิบดีจีนครั้งนี้มีความหมายและความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการกระชับความสัมพันธ์ ที่จะได้ร่วมกันกำหนดทิศทางความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านที่ครบรอบ 10 ปีในปีนี้ และมุ่งไปสู่การฉลองครบรอบ 50 ปี

 

การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568 รวมทั้งการเข้าร่วมการประชุมของจีนมีผลอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการประชุมเอเปคที่จะร่วมกันบรรลุเป้าหมายการสร้างประชาคมที่เปิดกว้าง มีพลวัต พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และมีสันติภาพ รวมถึงยังส่งผลความมั่นคงความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อภูมิภาคและโลกโดยรวม

 

ประธานาธิบดีจีน รู้สึกยินดีเป็นเกียรติที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ พร้อมกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการจัดการต้อนรับ ทั้งนี้ มิตรภาพจีน-ไทยสืบทอดกันมาหลายพันปี ประชาชนมีความสัมพันธ์เหมือนพี่น้องกัน โดยจีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย เพราะจีนและไทยไม่ใช่อื่นไกลคือพี่น้องกัน จีนพร้อมร่วมมือกันสรรค์สร้างความเจริญรุ่งเรืองและอนาคตร่วมกัน เปิดศักราชใหม่ของความร่วมมือ เพื่อผลประโยชน์ให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ

 

ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีจีน แสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีและประเทศไทยที่ได้จัดการประชุมเอเปคด้วยความสำเร็จ แสดงให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีความสร้างสรรค์ สามัคคี และปรองดอง พร้อมพัฒนาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค และสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลต่อไปยังระบบเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีจีนยังขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP และส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงทางราง รวมถึงการดำเนินการโครงการรถไฟไทย-จีน ให้เป็นไปตามที่กำหนด ซึ่งประธานาธิบดีจีนเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรต่อยอดความร่วมมือแบบดั้งเดิมทั้งเรื่องการลงทุน การค้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

 

รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือแบบใหม่ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล รถยนต์พลังงานทดแทน นวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่มองว่า ควรจะเร่งความร่วมมือสามฝ่ายไทย-จีน-ลาว ในเรื่องการเชื่อมโยงระบบรถไฟ โดยไทยและจีนควรส่งเสริมการเชื่อมโยงตั้งแต่ EEC ของไทยไปยังรถไฟจีน-ลาว ต่อไปจนถึงมณฑลยูนนานของจีน และเชื่อมไปยังเส้นทางขนส่งสินค้าทางบกและทางน้ำสายใหม่ของจีน สำหรับในขั้นต่อไปจีนหวังว่า จะมีการเชื่อมโยงทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และระบบศุลกากรเพื่อขยายการขนส่งสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย เช่น ทุเรียนและมังคุด

 

ซึ่งประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า จีนและไทยเป็นเหมือนพี่น้องและญาติมิตร จีนส่งเสริมให้ประชาชนของทั้งสองฝ่ายเดินทางไปมาหาสู่กันได้ หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาโควิด-19 ได้สำเร็จด้วยดี เชื่อว่าหากทุกฝ่ายสามัคคีร่วมมือกัน จะนำไปสู่ผลประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนได้ในระยะยาวหลังจากการหารือเต็มคณะ ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศเอกสารความร่วมมือและความตกลงที่มีการลงนามในช่วงการเยือน จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่แผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย – จีน ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ฉบับที่4 (พ.ศ. 2565-2569)

 

แผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วย การร่วมกันส่งเสริมเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

 

บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ

 

บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการก่อตั้งคณะทำงานความร่วมมือด้านการลงทุนและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

 

จากนั้น ประธานาธิบดีจีนได้ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีจีน และภริยา ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเดินทางกลับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนายกรัฐมนตรี และภริยา เดินทางไปส่ง ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube