“ธนาธร” เมิน 2 ป.แยกทาง ชี้ต้องนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศไทยให้ได้ ชี้ ก้าวไกลเสียเปรียบ กม.ลูกหาร 100 ไม่ขัด รธน.
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว 2 ป. แยกทางเดิน โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี จะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบชัดเจน แต่ไม่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่หรือไม่ ระบอบประยุทธ์ก็ยังอยู่กับเรา เพราะแทรกอยู่ในคำสั่งประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) องค์กรอิสระต่างๆ และอยู่ในรูปแบบของรัฐธรรมนูญ จึงคิดว่าจะต้องนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศไทยให้ได้ ไม่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่พรรคไหน ก็ตาม จะต้องแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งที่มาองค์กรอิสระ และต้องผลักดันการกระจายอำนาจต่อ เพราะมีแนวโน้มว่ารัฐบาลปิดกั้นการกระจายอำนาจ
ส่วน 2 ป. แยกหรือรวมกัน พรรคก้าวไกลได้เปรียบหรือเสียเปรียบหรือไม่ นายธนาธร ขอไม่แสดงความเห็น แต่จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเห็นความตั้งใจ ส่วนปัจจัยอื่นที่ควบคุมไม่ได้ หรือจัดการไม่ได้ ไม่ต้องไปกังวล ตนกังวลกับสิ่งที่ตนจัดการได้ และสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ ส่วนที่เราไม่สามารถจัดการได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ยืนยันว่า พร้อมรับทุกสถานการณ์
สำหรับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือการใช้สูตรหาร 100 ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะทำให้พรรคก้าวไกลได้เปรียบหรือไม่ ว่า ต้องไปถามพรรคก้าวไกล แต่ส่วนตัวมองว่าเสียเปรียบ เพราะจำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อลดลงจาก 150 คน เหลือเพียง 100 คน และคะแนนอันดับ 2 จากบัตรเลือกตั้งใบเดียวรอบที่แล้วถูกตัดทิ้ง และการกลับมาใช้บัตร 2 ใบ เชื่อว่าอย่างไรก็เสียเปรียบ
อย่างไรก็ตาม นายธนาธร เชื่อว่าพรรคก้าวไกล ภายใต้การนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นอย่างไร และเชื่อว่าผลงานของพรรคอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกลในสภา และความตั้งใจในการทำงานจะทำให้ประชาชนเข้าใจถึงความหวังดี
ทั้งนี้ นายธนาธร ยอมรับว่า การจะยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในสภานี้เป็นไปไม่ได้แล้ว เหลือความหวังเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องการกระจายอำนาจที่อยู่ในสภาตอนนี้ รวมถึงการให้ประชาชนทำประชามติว่าเห็นด้วยหรือไม่ ที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ยังได้กล่าวถึงกรณีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องถือหุ้นสื่อว่า ขอบคุณที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจและพร้อมจะต่อสู้คดี แต่ เมื่อมีคำตัดสินมาแล้ว ก็ต้องขอบคุณที่ให้ความเป็นธรรมกับตน ส่วนที่อัยการมีคำสั่งฟ้องกรณีทีความผิดกฎหมายอาญา ตามมาตรา 116
นายธนาธร เห็นว่า กรณีนี้ ผู้มีอำนาจต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งเรา ซึ่งขอยืนยันกับประชาชนว่าพร้อมสู้ทุกคดี ซึ่งนับตั้งแต่ตนเข้ามาทำงานการเมือง 4 ปี จนถึงวันนี้ ไม่เคยทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และขอยืนยันว่าคดีความต่างๆ ที่มาเล่นงานตนและพรรคพวกในพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกลจะเป็นแรงผักดันทางการเมือง เพื่อต้องการหยุดยั้งพวกตน
ขณะเกียวกัน นายธนาธร ย้ำว่า ไม่มีอะไรหยุดยั้งตนได้ ตนจะทำงานอย่างเต็มที่และสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews