“จักรพล” ทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทยทุกคน ติง”ประยุทธ์” ไม่เห็นหัวประชาชนเมินพิจารณาพระราชบัญญัติอากาศสะอาด
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาในช่วงเดือนธ.ค.อากาศของพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่ ต้องประสบกับมลภาวะทางอากาศ แม้ที่ผ่านมาพยายามแก้ไขอย่างเต็มกำลัง แต่ไร้ผลเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเท่าที่ควร ทั้งนี้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อนำเสนอพระราชบัญญัติอากาศสะอาด
เพื่อที่จะมีกฎหมายปกป้อง สภาพแวดล้อมของคนในพื้นที่ ตั้งเป้านำเข้าสู่การพิจารณาของสภาแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้รัฐบาลอ้างว่ากฎหมาย ดังกล่าวเป็นกฎหมายการเงินต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก่อนส่งผลให้กฎหมายฉบับดังกล่าวต้องถูกดึงเวลาเนิ่นนานออกไป
ซึ่งฝ่ายบริหารตีความว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเงิน ต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8 กระทรวงพิจารณา ปัจจุบันได้รับการตอบรับจากทั้ง 7 กระทรวงแล้ว ติดอยู่ที่กระทรวงการคลังไม่ยอมพิจารณาจึงไม่สามารถนำเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา จะเดินต่อหรือตีตกไป ส่งผลให้กฎหมายฉบับดังกล่าวไม่สามารถที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้
ทั้งนี้นายจักรพล กล่าวด้วยว่า 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนเชียงใหม่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศที่ร้ายแรงจนติดอันดับ 1 ของโลก 3 ปีติดต่อกัน เพราะหมอกควันพิษที่ลอยข้ามพรมแดนมามีความหนาแน่นสูงมาก ส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ทั้งโดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หลายคนเสียชีวิตเพราะปอดอักเสบ เด็กหลายคนต้องประสบ ปัญหาทาง ระบบการหายใจหากรัฐบาลไม่ทำอะไรคงเลวร้ายมากกว่านี้
ซึ่งรัฐบาลไม่เห็นหัวประชาชน ไม่มีความเห็นใจประชาชนในพื้นที่ ทั้งๆ ที่รัฐบาลมีเวทีมากมายให้นำกรณีดังกล่าวเข้าหารือในเวทีระดับนานาชาติ เพื่อหาทางออกร่วมกัน พล.อ.ประยุทธ์ ควรกำหนดให้การแก้ปัญหาหมอกควันพิษเป็นวาระแห่งชาติ หากรัฐบาลไม่ทำอะไรหลังการเลือกตั้ง หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล การแก้ปัญหาหมอกควันพิษจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่จะผลักดัน เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews