ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย แนะมองค่าแรงขึ้น ควบคู่รายได้ ขอผู้ประกอบการมองภาพรวมของประเทศ
จากกรณีที่ผู้ประกอบการมีข้อกังวลเรื่องนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ในขณะที่เศรษฐกิจประเทศไทยมีแนวโน้มยังไม่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดนั้นนายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส. หนองคาย และอดีตกรรมการสภาอุตสาหกรรม กล่าวว่า หากพิจารณาเพียงต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้นเพียงด้านเดียว โดยรายได้ไม่ได้สูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนของผู้ประกอบการก็คงต้องกังวลและสามารถเข้าใจได้ว่าพรรคเพื่อไทยกำลังจะหาเสียงแบบผลักภาระให้กับภาคเอกชน
ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล สิ่งที่จะดำเนินการควบคู่กันไปคือการหารายได้ให้กับประเทศ คือ การปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็นการปรับตาค่าครองชีพ และการขยายตัวของเศรษฐกิจ หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะส่งเสริมให้ผู้กอบการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SME มีรายได้มากขึ้น เมื่อมีรายได้มากขึ้น ผู้ประกอบการก็สามารถจ่ายค่าแรงที่เพิ่มขึ้นได้ ประกอบกับกาปรับค่าแรงไม่ได้ขึ้นทีเดียว จะปรับขึ้นตามเพดานสูงสุดในปี 2570 คืออีก 5 ปีข้างหน้า ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการจึงจะมีเวลาปรับตัว
หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตย ประเทศจะสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้มากขึ้น ผ่านการยกระดับอุตสาหกรรมเปลี่ยนจากประเทศที่ดึงดูดนักลงทุนจากค่าแรงที่ถูกเป็นแรงงานศักยภาพสูง ภายใต้การนำของรัฐบาลเพื่อไทย ภาคการเกษตร ภาคบริการและการท่องเที่ยวจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อคนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะสามารถจ่ายต้นทุนค่าแรง และค่าครองชีพอื่นๆที่เพิ่มขึ้นได้ตามไปด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการผ่อนปรนภาษีนิติบุคคล จาก 30% เป็น 23% ในปีแรก และในปีต่อมาเป็น 20% เพื่อชดเชยกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้น พรรคเพื่อไทยในวันนี้ก็มีแนวคิดที่ออกมาตรการส่งเสริมสนับสนุนภาคเอกชนและผู้ประกอบการ SME ด้วยเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews