เพื่อไทย ชี้รัฐออกของขวัญปีใหม่ เกาไม่ถูกที่คัน
เพื่อไทย ชี้รัฐออกของขวัญปีใหม่ เกาไม่ถูกที่คัน หวั่น ขึ้นค่าไฟ ภาคเอกชนทำของแพง กระทบเงินเฟ้อ
นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ครม. เคาะของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนว่าถือเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลพยายามคิดมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แต่ของขวัญดังกล่าวเป็นมาตรการที่แก้ปัญหาประชาชนไม่ตรงจุด เสมือนการเกาไม่ถูกที่คัน เพราะสิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส ที่สำคัญที่สุด คือรัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริมโอกาสในการสร้างรายได้ในกระเป๋าประชาชน ไม่ใช่ออกมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายเอาเงินออกจากกระเป๋า ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินเพิ่ม
นายกฤษฏา กล่าวว่าหากเราพิจารณาดูมาตรการของรัฐบาลนี้ อย่างคนละครึ่ง, เราเที่ยวด้วยกัน การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงการขึ้นค่าไฟภาคเอกชน จะเห็นได้ว่าเป็นมาตรการที่เป็นการสร้างรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกันก็ไปสร้างรายได้ให้กับกลุ่มทุนเพียงบางกลุ่ม ซึ่งย้อนแย้งกับ ยุทธศาสตร์ชาติ กับการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ชนิดที่เรียกได้ว่า หน้ามือเป็นหลังมือ
โดยเฉพาะเรื่อง ค่าไฟ ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติ ขึ้นค่าไฟภาคธุรกิจเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายคนที่ต้องรับภาระ ต้องเป็นประชาชนเพราะ ภาคเอกชนเองก็ต้องมีการขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน คำถามที่หลายคนให้ความสงสัยก็คือ วันนี้เรามีกลุ่มทุนผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน
ที่ กฟผ. จะต้องจ่าย “ค่าความพร้อมจ่าย” ให้ผู้ผลิตไฟฟ้ากลุ่มนี้ ในไตรมาสสุดท้ายของปี เดือน ก.ย.-ธ.ค.65 ยอด 30,665 ล้านบาท และในไตรมาสแรกของปีหน้า ม.ค.-เม.ย.66 ยอด 32,420 ล้านบาท ซึ่งหากการผลิตไฟฟ้าเราขาดแคลน และเรามีความจำเป็นต้องพึ่งหลายๆ ภาคส่วนในการผลิตก็เป็นที่เข้าใจได้ แต่วันนี้ เราผลิตเกินความต้องการมากถึงประมาณ 50% สุดท้าย คนที่ต้องรับภาระก็คือภาคประชาชนและภาคเอกชน
นายกฤษฎา ระบุว่า ปีใหม่นี้ รัฐบาลกำลังจะมอบของขวัญให้กับพี่น้องประชาชน เริ่มต้นที่ ช้อปดีมีคืน ปี 66 โดยในระยะเวลา 45 วันตั้งแต่วันปีใหม่ สำหรับผู้มีรายได้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งไม่รวมนิติบุคคล ไม่รวมเกษตรกร ไม่รวม SME ให้เฉพาะคนที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ไม่ใช่แค่นั้น วันที่เริ่มคือ 1 ม.ค.66 ซึ่งอยู่ในช่วงกลางถึงปลายเวลาของการท่องเที่ยวแล้ว
คนส่วนใหญ่ออกเดินทางกลับบ้านตั้งแต่ก่อนปีใหม่ และถ้าดูข้อจำกัดของสินค้า ที่ไม่รวมกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแล้ว ทำให้เห็นเลยว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าใจเรื่องการใช้งบประมาณช่วงเทศกาล หรือวันนี้รัฐบาลถังแตก ไม่มีงบประมาณกันแน่ เลยตั้งใจใช้จ่ายงบประมาณแบบนี้ หรือวันนี้ที่ต้องเริ่มวันที่ 1 ม.ค.66 เพราะการบริหารการเงินการคลังที่ผิดพลาด เลยตั้งใจให้ยอดไปอยู่ที่ปีหน้าแทน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews