“พรเพชร”เชื่อ ส.ว.เลือกนายกฯ คนใหม่ คำนึงถึงความมั่นคงของสภาฯ – ดูพรรคการเมืองฟอร์มทีม ไม่มองวาระ “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯ กี่ปี เตือน “ส.ว.” ออกตัวแรง ระวังถูกร้องหลุดตำแหน่งได้
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงข้อครหาเกี่ยวกับอำนาจส.ว.ที่มีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า หลายคนมองว่าตอนนี้ ส.ว.แบ่งออกเป็นฝ่ายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และฝ่ายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ว่า ยังไม่ถึงข้อครหา แต่เป็นธรรมดาของสังคมหรือของวุฒิสภา คงจะไปบอกว่าทุกคนเหมือนกันหมดไม่ได้ ไม่มี เพราะทุกคนก็ต่างมีความคิดเห็น ตนเชื่อว่าสมาชิกย่อมมีความเห็นแตกต่างกันแน่นอน และความเห็นแตกต่างของเขาก็ต้องไปดูตอนที่เขาจะลงคะแนน และก่อนที่จะลงคะแนนเขาจะมีเสียงออกมาชัดเจน ซึ่งมีน้อยคนที่จะแสดงความชัดเจนในตอนนี้ เพราะคงไม่อยากไปขัดแย้งอะไร และเราก็พูดไม่ได้
“ยิ่งประธาน ยิ่งไปบอกไม่ได้ว่าคุณจะเลือกอะไร ตอนนี้คุณเห็นพรรคไหนดี หรือถ้าคะแนนไม่ถึง แล้วพรรคนี้เขาได้ และคุณจะสนับสนุนหรือไม่ ถ้าโดยหลักการก็ต้องพูดอย่างนั้นว่า วุฒิสภามีหน้าที่ที่จะดูว่าประเทศชาติ เราจะเดินหน้าได้อย่างไร”
ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรี จากการเลือกตั้งครั้งหน้าถือเป็นครั้งสำคัญเพราะเป็นครั้งสุดท้ายของส.ว.ชุดนี้ ที่ผ่านมา ส.ว.แทบจะไม่แตกแถวในการเลือกพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้จะใช้หลักอะไร หาก 2 ป. ต้องแข่งกัน ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งแรกเป็นการเลือกคนเดียว แต่การเลือกครั้งใหม่ เท่าที่ตนฟังจากสมาชิกบอกว่า เขาต้องดูก่อนว่าเมื่อเขาเลือกไปแล้วจะมีความมั่นคงในระบบรัฐสภาหรือไม่ อาจจะเป็นความคิดของตนก็ได้ที่ตนได้ยินมาว่าส.ว.ควรที่จะเลือกให้ระบบรัฐสภาที่มี 2 สภาอยู่ได้ ตามกฎหหมายที่ให้สมาชิกวุฒิสภาเลือกนายกฯได้ ถ้าเราเลือกไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็จะมีผลกระทบ ไม่ว่าส.ว.หรือส.ส.ทุกคนก็รักประเทศชาติ และอยากให้ประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งนี่เป็นความคิดและเป็นความตั้งใจ แต่แน่นอนว่าต้องมีบางท่านที่เขาผูกพันกับความต้องการอย่างไร เขาก็คงต้องยืนตามนั้น
และที่ระบุว่าส.ว.จะคิดถึงความมั่นคง ในการเลือกนายกฯหมายรวมถึงอายุการดำรงตำแหน่งด้วยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ความมั่นคง อยู่ในขั้นตอนแรกของการเลือกพรรคการเมืองใหม่เข้ามา แน่นอนว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่จะต้องมีการฟอร์มรัฐบาลให้ได้เร็ว และรัฐบาลต้องมั่นคง ส.ว.ก็คงต้องมีบทบาท เพราะ ส.ว.ต้องคำนึงถึงว่าสร้างความมั่นคงได้อย่างไร ถ้าไม่มั่นคงก็ยุบสภากันอีก ดังนั้นอายุการดำรงตำแหน่งของนายกฯก็มีส่วน เพราะคนที่จะเป็นนายกฯได้ สมมติเขาอยู่ในพรรคการเมืองที่ได้เสียง 250 ถึง 255 แล้วมาได้เสียงจากส.ว. โหวตนายกฯ ก็ไม่มั่นคงเท่าไหร่ ถ้าจะให้ดีส.ส.ที่รวมกันต้องมีเสียงมาก เพราะส.ว.เพียงไปช่วยสนับสนุน
ส่วนอายุการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เหลืออีก 2 ปี ถือว่ามั่นคงหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า เป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ ตนคงไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า การเป็นนายกฯ 4 ปี กับ 2 ปี จะเป็นตัวเลือกที่ส.ว.ต้องพิจารณาใช่หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ต้องรอดูการฟอร์มของรัฐสภา ตนถึงจะตอบได้ วันนี้ไปด่วนพูดก็ไม่เกี่ยวกับวุฒิสภาเท่าไหร่ อยากให้ส.ส.เป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีการระบุว่าถ้าเสียงของส.ส.เกิน 250 แล้ววุฒิสภา ไม่ทำตามส.ส.จะเกิดความวุ่นวาย การพิจารณาต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ด้วยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องพิจารณา แต่ต้องดูว่าโครงสร้างของส.ส.นั้น ส.ว.เขาพอใจหรือไม่ โครงสร้างคือพรรคการเมืองสามารถฟอร์มได้ และเรื่องความวุ่นวายก็เป็นสิ่งที่ส.ว.ต้องพิจารณา แต่ถึงตอนนั้นอาจจะไม่วุ่นวายก็ได้ ตอนนี้เราอย่าไปด่วนคิดอย่างโน่นอย่างนี้ไปก่อน
ทั้งนี้ หากฝ่ายค้านชุดปัจจุบันจับมือเป็นเสียงข้างมากในสภา ฯ ส.ว.พร้อมที่จะเลือกนายกฯจากฝ่ายค้านหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าฝ่ายค้านที่มารวมกันเป็นอย่างไร และจะไปบอกว่าเขาเป็นฝ่ายค้านปัจจุบันไม่ได้ เขาก็พร้อมที่จะเป็นรัฐบาลทั้งนั้น ซึ่งในความเห็นส่วนตัวตนจะดูลักษณะการรวมตัวของพรรคต่างๆเหล่านั้น มีความมั่นคง เป็นพวกกันจริงหรือไม่ แต่ตนก็ลงคะแนนไม่ได้ เพราะตามมารยาทที่ตนทำหน้าที่เป็นประธาน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยโหวตสักเรื่องเลย ดังนั้น ในส.ว. 250 จึงไม่เคยมีตนอยู่ เหมือนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็ไม่เคยโหวตเลย เมื่อถามย้ำว่า หากแคนดิเดตนายกฯเป็นคนจากพรรคเพื่อไทย ทางวุฒิสภาจะเลือกหรือไม่ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนตอบไม่ได้จริงๆ แต่คิดว่ามีคนเลือกแทบทุกพรรค และการโหวตเลือกนายกฯ คิดว่าคราวนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นไปในทางเดียวกัน เสียงย่อมไม่ 100% ตนจึงตอบแทนสมาชิกไม่ได้ เพราะตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะลงสมัครแข่งขันเป็นผู้แทนเลย มีเพียงพรรคที่เขามีอยู่แล้วเท่านั้น
ส่วนมองอย่างไรที่ขณะนี้มีการรวมเสียงส.ว.ไปอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร แล้ว ทำให้มีเสียงสนับสนุนถึง 375 เสียง นายพรเพชร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินใครจะทำอย่างนั้น แต่เชื่อมั่นว่าไม่มี อย่างไรก็ตามต้องให้พรรคการเมืองฟอร์มให้เห็นชัดก่อน เมื่อถามว่า ช่วงปีใหม่พรรคการเมืองหาเสียงเข้มข้น ในขณะที่ส.ว.ออกมาแสดงท่าทีว่าสนับสนุนใครหรือไม่สนับสนุนใครแล้ว จะทำให้เกิดข้อครหาหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ถ้าเขาทำเช่นนี้ก็ขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นอันตรายต่อตัวเขาเอง ที่อาจจะถูกดำเนินการในทางกฎหมาย ถึงขั้นพ้นจากตำแหน่ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews