สปอร์ตไลท์ทุกดวงในปี 2566 สาดส่องไปที่พรรคการเมืองกับการวางขุมกำลังรับเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
นั่นเพราะ “ลุงตู่” ส่งสัญญาณยุบสภา โดยคนสนิท “พล.อ.ประยุทธ์” อย่าง “นายธนกร วังบุญคงชนะ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่า นายกฯเคยเปรยๆเรื่องนี้ ซึ่งส่วนตัวคาดการณ์ว่า การยุบสภาจะเกิดขึ้นในช่วงใกล้ครบวาระ
ขณะที่มุมมองของ “นายชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่า การยุบสภาจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 28 ก.พ. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมสภา ทำให้การเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นก่อน 7 พ.ค.2566
ดังนั้นเมื่อทุกอย่างเริ่มจะชัดเจน ย่อมส่งผลให้อุณหภูมิทางการเมืองจากนี้ไปร้อนแรงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโปรโมทนโยบายหาเสียง ที่จะมีการขายฝัน ช่วงชิงเรตติ้ง
และแน่นอนว่าหนึ่งในนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง ย่อมต้องมีแผนสร้างความมั่งคั่งให้กับเศรษฐกิจ รวมถึงการแก้ปัญหาปากท้อง อันเนื่องมาจากค่าครองชีพสูง
ซึ่งโจทย์ข้อนี้ ว่ากันว่ามีความท้าทาย นั่นเพราะปี 2566 เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง ล่าสุด IMF เตือนว่า เศรษฐกิจโลก 2566 จะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้น โดยเศรษฐกิจโลกราว 1 ใน 3 จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจยังสุ่มเสี่ยง ขณะที่เป้าหมายของ “ลุงตู่” คือการคว้าชัยในสนามเลือกตั้ง เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งศึกนี้ “ลุงตู่” จะไหวหรือไม่ และจะได้ไปต่อหรือเปล่า รวมถึงผลงานด้านเศรษฐกิจโดนใจภาคเอกชนหรือไม่ สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. คุยกับ “นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง” ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ครั้งหนึ่งนั้น เขานำทัพสิงห์รถบรรทุกในกิจกรรม Truck Power บุกกระทรวงพลังงานจี้ปลด นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกจากตำแหน่งมาแล้ว โดย”นายอภิชาติ” บอกว่า ในช่วงเวลา 8 ปี ของการทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ “พล.อ.ประยุทธ์” ดูจะไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ
“8ปีที่ผ่านมา ท่านนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ ท่านก็ทำมา 8 ปี แล้วเศรษฐกิจก็ค่อนข้างที่จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ก็อาจจะมาจากโควิดด้วยก็ได้ แต่ถ้าทีมบริหาร หรือคณะรัฐมนตรีที่มีความสามารถ ผมก็คิดว่า จะนำพาประเทศไปสู่ความมั่งคั่งได้ แต่ในขณะนี้เศรษฐกิจก็ค่อนข้างย่ำแย่ ปัจจัยสำคัญมาจากพลังงานส่วนหนึ่ง เพราะในเมื่อพลังงานอย่างเช่นน้ำมัน หรือค่าไฟ ปรับขึ้นราคาขึ้นมา ก็ทำให้ต้นทุนสินค้าขึ้นสูงมาเลย”
แต่ในอีกมุมหนึ่ง “นายอภิชาติ” กล่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ก็มีผลงานที่โดดเด่น นั่นคือ การเดินหน้าโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นมากมาย แต่ปัญหาราคาพลังงานแพง และแผนการแก้ปัญหาที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกันอนาคต ซึ่งประเด็นเหล่านี้ย่อมกระทบต่อพล.อ.ประยุทธ์ที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้
“คือพูดตรงๆนะ ทุกวันนี้ ประชาชนก็เหมือนกบเลือกนายอยู่แล้ว แต่ถ้าว่านายคนนี้ที่เขาเลือกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ยังมีฝีมือแล้วสามารถทำให้ประชาชนเกิดความอยู่ดีกินดีมีความสุข ไม่กระทบกระเทือนมากนัก ผมก็คิดว่า ท่านก็มีโอกาสที่จะอยู่ต่อได้ ถ้าเป็นอย่างนี้อยู่ ผมคิดว่า ผมฟันธงเลยนะว่า ยากที่ท่านจะกลับมา ผมพูดตรงๆ ต้องกล้าตัดสนใจอะไรสักอย่างนึง ท่านอาจจะต้องแก้ไขอะไรบางอย่างที่คิดว่าทำให้ประชาชนได้ใจอะไรแบบนี้นะครับ”
และนี่ก็เป็นมุมมองของภาคเอกชนต่อท่าทีทางการเมืองของนายกฯลุงตู่ ซึ่งจากนี้ต่อปจะต้องติดตามช่วงจังหวะเวลาของการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด เพราะทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ย่อมมีผลต่อเศรษฐกิจไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews