Home
|
ข่าว

นายกฯยันไปรับวัคซีนเองรอดูฉีดคนแรกปัดปรับครม.

Featured Image
นายกฯ เตรียมร่วมพิธีรับวัคซีนโควิดล็อตแรก 24 ก.พ. นี้  พร้อมฉีดเป็นคนแรกถ้าฉีดได้ เตรียมประชุม ศบค.ชุดใหญ่ บ่ายนี้ คลายล็อกบางกิจกรรม ย้ำยังไม่ปรับ ครม.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทซิโนแวค ประเทศจีนล็อตแรก จำนวน 2 แสนโดส
ที่จะเดินทางมาถึงวันที่ 24 ก.พ.นี้ว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ซึ่งจะไปร่วมในพิธีรับวัคซีนนี้ด้วย เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่านำเข้ามาแล้วส่วนวันหน้าอาจจะมีอะไรเข้ามาอีก อย่างไรก็ตาม วัคซีนแต่ละประเภทก็เหมาะสมกับคนบางกลุ่ม ซึ่งบางคนก็ต้องระวังระวัง ก็จะดูแลอย่างเต็มที่
ขณะที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติก็ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้วคนอายุสูงวัยและคนที่มีโรคติดต่อจะเหมาะสมใช้อะไรก็ว่ากันไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในวันเดียวกันนี้จะมีการพิจารณาปลดล็อคบางประการเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ไม่เช่นนั้นจะเดือดร้อนกันไปทั่ว แต่ข้อสำคัญคือทุกคนต้องระมัดระวังตนเอง ไม่ทำให้ตนเองเป็นผู้เข้าไปรับความเสี่ยงและต้องไม่สนับสนุนกิจการที่ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงไม่ใช่เอาความสุขส่วนตัวเข้าไปแล้วก็แพร่ระบาดก็เดือดร้อนกันไปอีก ซึ่งรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบแก้ทุกปัญหา

ส่วนที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุว่า นายกรัฐมนตรี พร้อมฉีดวัคซีนโควิดเป็นคนแรกเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นั้น ว่า ถ้าฉีดได้ก็พร้อมฉีด แต่ต้องดูว่าเป็นวัคซีนอะไรประเภทไหน พร้อมย้อนถามสื่อว่าใครจะฉีดกับตนหรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวตอบว่า ฉีดแต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มแรก เพราะไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอยู่ใกล้ฉันเสี่ยง

 

 

นายกฯ ขอติดตามการทำงานรัฐบาลมากกว่าเสนอข่าวเรื่องความขัดแย้ง ย้ำยังไม่ปรับครม.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงควันหลงภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เรื่องต่างๆที่มีการพูดคุยหรืออภิปรายในสภาก็รับไว้ทั้งหมด รวมทั้งข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ต้องแก้ไข และต้องดำเนินการติดตามสอบสวนก็ว่ากันไปซึ่งเป็นเรื่องการทำงานในการบริหารราชการแผ่นดินอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องอื่นๆก็อยากขอให้ติดตามการทำงานของรัฐบาลด้วยมากกว่าการเสนอข่าวเรื่องความขัดแย้งเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้สิ่งต่างๆที่ดีหายไปหมด ส่วนอะไรผิดก็ว่ากันไป ส่วนอะไรถูกก็ต้องสร้างความเข้าใจกันด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องควันหลงต่างๆ ก็เป็นเรื่องของการเมือง ไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้เท่าไร แต่จะดูว่าเราจะแก้ไขอย่างไร และแต่ละกระทรวงจะทำงานอย่างไรให้สามารถตอบรับความต้องการของประชาชนได้

ขณะที่เรื่องทุจริตต่างๆ ก็ต้องไปสอบสวนกัน ขณะที่เรื่องระหว่างพรรคก็เป็นเรื่องของพรรคซึ่งยอมรับว่า เป็นแบบนี้มาตลอดยาวนานมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดเฉพาะตอนนี้ ซึ่งต้องปฏิรูปตัวเองกันด้วยทั้งในสภาและนอกสภา ซึ่งไม่ได้ตำหนิใคร

ส่วนการต่อสายตรงหานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหลังได้คะแนนโหวตน้อยที่สุด นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่ได้สนใจใครได้คะแนนมากน้อย ซึ่งตนเองก็ได้น้อยก็ไม่ได้แคร์อะไร เพราะผ่าน อภิปรายแล้วก็ถือว่าจบ พร้อมขออย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นนี้ความขัดแย้งส่วนพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค การจะลงคะแนนเสียงก็เป็นมติของพรรค แล้วแต่ว่าจะให้เป็นการแสดงความคิดเห็น ลงคะแนนส่วนตัวหรือไม่

ขณะที่ ข่าวลือปรับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระแสสื่อมวลชนเป็นคนปลุกปั่นขึ้นมาเอง ตนเองไม่เคยพูด และกรณีที่มีการแซว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้คะแนนมากกว่า ให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน นั้น เป็นการพูดแหย่พูดเล่นกัน จะจับมาเป็นประเด็นทุกเรื่องไม่ได้ บางเรื่องก็แสดงความยินดี ได้น้อยหน่อยมากหน่อยไม่เป็นไร ไม่ได้ตั้งใจให้สื่อมาแพร่

 

ชี้ม็อบราษฎรนัดชุมนุมหน้า สตช. หากมีเหตุรุนแรงจำเป็นบังคับใช้กฎหมาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มราษฎรประกาศนัดชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในประเด็นการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่ถูกแทรกแซงว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ชุมนุมไป แต่ถ้าสร้างความเดือดร้อน สร้างความรุนแรง หรือมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธ ว่า ไม่มีความขัดแย้งภายใน สตช. แต่จะต้องทำให้เกิดความถูกต้อง บางครั้งก็ออกเอกสารที่นำออกมาเผยแพร่โจมตีก็ไม่ควรจะนำออกมาเผยแพร่ ซึ่งเป็นการดำเนินการภายในของหน่วย และตนเคยย้ำว่าใครจะเสนออะไรก็ได้ แต่เป็นเรื่องการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้หรือไม่ได้ก็ว่ากันไป คนเป็นคณะกรรมการ ก.ตร. ก็มีคณะอนุกรรมการ เสนอขึ้นมามีการคัดกรองตามลำดับไม่ใช่ใครจะเสนออะไรก็ได้ จะห้ามคนขอก็ยากอย่าเอาไปเกี่ยวพันกับเรื่องอื่นๆ

ส่วนได้มีการเรียก พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพล.ต.ท. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาคุยหรือไม่ หลัง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ ในประเด็นตั๋วช้าง นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนทำของตนอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรี ทำทุกเรื่อง ถ้าจะทำให้เร็วขึ้นให้ไปเรียกเขามาคุยเอง พร้อมย้อนถามกลับสื่อว่า เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ไม่ได้เป็นก็ไม่ต้องพูดมาก

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube