ฮือฮาไม่น้อย จดหมายเปิดใจ ของ “บิ๊กป้อม” โพสต์เฟซ แจงเหตุการณ์ตั้งแต่รัฐประหาร จนดัน “น้องรักประยุทธ์” นั่งนายกฯ พร้อมย้ำ “3 ป. Forever” มาวันนี้ ยังมีความรู้สึกเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในเมื่อน้องรักตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ก็ไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ คงจะบอกได้เพียงว่า ผมขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย ขอให้ประสบความสำเร็จบนเส้นทางการเมืองใหม่ที่ท่านได้ตัดสินใจเลือกแล้ว
ขณะที่น้องรักอย่างบิ๊กตู่ ยังออกทรงหงุดหงิด ฉุนเฉียวเหมือนเดิม ปมสื่อจี้ถามปมจดหมายเปิดใจ ยันสัมพันธ์ 3ป.ยังเหมือนเดิม ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างกันก็ดีมาตลอด และอวยพรกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว ขออย่าขุดคุ้ยสร้างความแตกแยก พร้อมยังย้ำว่ากับพลเอกประวิตรอยู่ด้วยกันนาน 40-50 ปีแล้ว ร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบก็ผ่านมาแล้ว อยู่ชายแดนก็อยู่ด้วยกันมาแล้ว จะอะไรนักหนา ไม่เข้าใจ
ต่อมา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ค่ายเพื่อไทย จวก ว่า ไม่รู้ว่าพล.อ.ประวิตร เขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยเลือดหรือน้ำตา การบอกว่า ไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ หลังรู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ สะท้อนความกระอักกระอ่วนใจคิดไม่ถึงว่าอดีตลูกน้องที่เคยฟูมฟักตั้งแต่เป็นทหารเด็กๆ จะทำกับพี่ใหญ่ 3ป. ได้ถึงเพียงนี้ การบอกว่า 3 ป. Forever ไม่แน่ใจว่า หมายถึง 3ป.จากกันตลอดไป หรือ ทิ้งให้ 3ป.เหลือแค่ตำนานตลอดไป
ขณะค่ายก้าวไกล ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ชี้ว่า เป็นพล็อตเรื่องละครน้ำเน่าตีหน้าเศร้า เล่าความหลัง ที่คิดว่าจะดึงคะแนนสงสาร คะแนนความเห็นอกเห็นใจจากฐานแฟนคลับได้ แต่หารู้ไม่ประชาชนเขาเอือมระอากันทั้งประเทศ สุดท้ายจดหมายเปิดใจ บอกรัก ช่วงที่ตัวเองใกล้หมดอายุฉบับนี้ นั้นคงพิสูจน์ อะไรไม่ได้ เป็นแค่หมากตัวนึง ที่หาเสียงช่วงใกล้เลือกตั้งเท่านั้นเอง เพราะสุดท้ายแล้วผู้มีอำนาจทั้งหลายก็ไม่มีใครคายอำนาจสักคน
ในขณะเดียวกัน ผู้สังเกตุการณ์การเมือง มองว่า หมากเกมนี้ เป็นเหมือนการบอกกับสังคมว่าขณะนี้ พลังประชารัฐ กับรวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่พรรคอะไหล่ของกันและกันนะ แม้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพี่น้องยังคงเหมือนเดิมแต่บทบาทการเมืองของแต่ละคนก็ต้องเล่นกันไป ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้พรรคของบิ๊กป้อมสามารถสวิงไปจับมือกับทางค่ายเพื่อไทยได้ หลังจากมีข่าวลือ ข่าวปล่อยกันมาหลายละลอกแล้ว
และถ้าภายใต้ตรรรกะว่า ค่ายเพื่อไทยไม่สามารถแลนด์สไลด์ ได้ แล้วป้อม-ตู่ ใคร จะเป็น นายกฯคนที่30 ซึ่งปัจจัยตัวแปรสำคัญหนึ่งคือค่ายเสี่ยหนู ภูมิใจไทย โดยเมื่อเหหยี่ยวข่าว ถาม จะเลือกใครระหว่าง ป้อม กับ ตู่ ด้านเสี่ยหนู ตอบทันควัน ไม่เลือกข้างใคร ส่วนหลังเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยจะกำหนดทิศทางอย่างไร เสี่ยหนูบอกว่า ต้องดูผลการเลือกตั้ง ต้องฟังเสียงประชาชน ประชาชนจะเป็นคนบอกเราเองว่า เราจะต้องไปตรงไหน
อย่างไรก็ตามต้องติดตามว่ากลยุทธ ของฝ่ายขุนทหาร จะเดินหมากค่ายกลต่อไปแบบไหน และจะสามารถชิงธง กำชัยในศึกเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
