“ศักดิ์สยาม” ตรวจเยี่ยมและติดตามข้อสั่งการ การอำนวยความสะดวกผู้โดยสารภายหลังจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมและติดตามข้อสั่งการการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารภายหลังสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า โดยตามนโยบายรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและประเมินสถานการณ์ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการรองรับนักท่องเที่ยว และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานมีความพร้อมทั้งมาตรการให้บริการจราจรทางอากาศและการให้บริการภาคพื้น เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลังจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณเที่ยวบินและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มจะมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่ง ทอท. มีเป็นเที่ยวบินเส้นทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 2,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 80 เที่ยวบิน/วัน โดยมีผู้โดยสาร จำนวน 255,000 คน หรือเฉลี่ย 11,000 คน/วัน ซึ่งเป็นเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 1,126 เที่ยวบิน และผู้โดยสารขาเข้า – ขาออก จำนวน 238,374 คน
จากการประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของผู้ประกอบการภาคพื้นทั้ง 2 ราย (TG และ BFS) ที่ใช้เวลามากกว่า 30 นาที เมื่อเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งมีประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน ปัจจุบัน (เดือนกุมภาพันธ์ 2566) ลดลงเหลือประมาณ 15 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งจะเห็นว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ
โดยการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนนั้น บริษัทผู้ให้บริการภาคพื้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้ง 2 ราย มีการเพิ่มจำนวนบุคลากรและอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการเปิดประเทศ รวมทั้งทอท. ได้ขยายระยะเวลาให้บางสายการบินบริการภาคพื้นด้วยตนเอง (Self Handling) เป็นการชั่วคราว
ในส่วนของการจัดระเบียบพื้นที่จุดนัดพบของบริษัทท่องเที่ยว (กรุ๊ปทัวร์) ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งปัจจุบันมีการเดินทางเป็นหมู่คณะเพิ่มขึ้น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่สำหรับกรุ๊ปทัวร์ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2565 เพื่อเป็นการลดความแออัดบริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน ไม่ให้กีดขวางทางเดินผู้โดยสาร โดยจัดพื้นที่รองรับกรุ๊ปทัวร์ขาออกโดยเฉพาะไว้ที่บริเวณชั้น 4 ประตู 10 ซึ่งจากการดำเนินการมาประมาณ 1 เดือนกว่า บริษัทท่องเที่ยวให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามแนวทาง
การจัดระเบียบพื้นที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวไม่ทำให้เกิดปัญหาความแออัดของพื้นที่บริเวณชั้น 4 ประตู 10 เนื่องจากปัจจุบันกรุ๊ปทัวร์หนาแน่นในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับเที่ยวบินขาออกในเส้นทางยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น ส่วนกรุ๊ปทัวร์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่จะเดินทางขาออกช่วงเวลากลางวัน ซึ่งเป็นคนละช่วงเวลากับกรุ๊ปทัวร์หนาแน่นในช่วงเวลากลางคืน
สำหรับประเด็นที่มีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์จากนักท่องเที่ยวว่าจุดทำ VISA ON ARRIVAL (VOA) มีการเรียกเก็บค่าบริการนั้น กระทรวงคมนาคม ได้ตรวจสอบข้อมูลจาก ทอท. และผู้แทนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 พบว่า ไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการดังกล่าว โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะเรียกเก็บเพียงค่าธรรมเนียมการขอรับตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VOA) ตามกฎหมายเท่านั้น รวมไปถึงการให้บริการช่องทาง Fast Track VISA ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารทั้ง 10 ประเภท ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานทุกแห่งมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวภายหลังเปิดประเทศ โดยได้ประสานข้อมูลกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ ทั้งด้านบุคลากร และสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งในส่วน Landside และ Airside ของท่าอากาศยาน เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยาน ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วที่สุด โดยได้กำชับให้ผู้ให้บริการภาคพื้น ที่ให้บริการขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสาร ดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ตรงตามเวลาที่กำหนด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้สร้างความรับรู้ในการปรับปรุงบริการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนรับทราบ จัดทำวีดีโอคลิปประชาสัมพันธ์บนเครื่องบินเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสาร รวมทั้งมีการพัฒนา service mind ของเจ้าหน้าที่เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการของท่าอากาศยานและมีจัดเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ผู้โดยสารเมื่อเวลาเกิดปัญหา เพื่อช่วยลดความกังวลให้แก่ผู้โดยสารที่ประสบปัญหา พิจารณาเร่งรัดการดำเนินการโครงการต่างๆ ของ AOT
เพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ปรับลดขั้นตอนการทำงานในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และมอบให้ ทอท. สนับสนุนข้อมูลสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในการขยายอัตรากำลังเพื่อรองรับการตรวจคนเข้าเมืองให้สอดคล้องกับการเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยว มอบให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยบริหารจัดการ จัดสรรตารางการบิน ให้แก่สายการบินต่าง ๆ ปรับเส้นทางบินตรงไปยังท่าอากาศยานในภูมิภาคและปรับช่วงเวลาการเดินทางเพื่อลดความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และใช้ระบบ IT และ automation มาช่วยปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews