Home
|
ข่าว

ปลัด สธ. ยัน คนไทยได้รับสิทธิ์รักษาเท่าเทียม

Featured Image
ปลัด สธ. ยัน คนไทยได้รับสิทธิ์รักษาเท่าเทียม ชี้ กลุ่มข้าราชการ-ประกันสังคม ติดขัดข้อกฎหมายเรื่องการป้องกันโรค ทำให้ไม่ได้งบวัคซีน แจงตั้งงบแล้ว เตรียมออก พ.ร.ก. มีนาคมนี้

 

 

 

นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนพ.โอภาส การกวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ชี้แจงกรณีมีการอภิปรายถึงการตัดงบประมาณ สปสช.ว่า การอภิปรายดังกล่าวมีข้อเท็จจริงที่ไม่ครบถ้วน

 

 

โดยนพ.โอภาส กล่าวว่า กองทุนหลักในการดูแลสุขภาพคนไทยมี 3 ส่วน คือ สปสช. ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ ซึ่งในภาพรวมคนไทยต้อง มีสิทธิ์ได้สิทธิ์หนึ่งทั้งในการรักษาพยาบาลและการป้องกันโรค ซึ่งในส่วนที่มีปัญหาคือส่วนการป้องกันโรค ที่เดิมกองทุนสวัสดิการข้าราชการและบัตรประกันสังคมไม่ได้ระบุไว้ ทำให้เวลาข้าราชการไปรับวัคซีนจึงไม่มีงบประมาณรองรับ เช่นเดียวกับกลุ่มประกันสังคม

 

แต่ในส่วนของ สปสช.ครอบคลุมทั้งสองส่วน จึงมีการจัดงบประมาณดูแลส่วนนี้ แต่มีข้อกฎหมายบางประเด็นที่ต้องแก้ไขให้ถูกต้องตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ให้นโยบายมาตลอดว่าคนไทยทุกคนต้องได้รับสิทธิ์การรักษาเท่าเทียมกัน นี่คือวิธีการแก้ปัญหาก็มีการจัดงบเพื่อแก้ไขใช้ในการป้องกันโรคมากขึ้น ซึ่งนายอนุทินได้ให้นโยบายมาตลอดว่าคนไทยทุกคนต้องได้สิทธิ์เท่าเทียมกันในการรักษาป้องกันโรค

 

ด้านนพ.จเด็จ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การตั้งงบประมาณทั้งการรักษานั้น มีการเบิกจ่ายตามระบบ ส่วนงบประมาณในการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค เป็นงบประมาณที่ตั้งอยู่ที่กองทุนหลักประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นการตั้งงบสำหรับทุกคน ทุกสิทธิ์ ส่วนการรักษาพยาบาลตั้งไว้สำหรับคน 48 ล้านคน สำหรับในปีนี้เมื่อมีข้อทักท้วงทางกฎหมายทางสำนักงาน สปสช. ก็ดำเนินการตาม พ.ร.บ. คือจะมีการร่างพระราชกฤษฎีกาบริการเพื่อออกมาให้บริการทั้งสองส่วน ซึ่งได้มีการหารือเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการฯได้มีมติที่จะร่วมกันออกพระราชกฤษฎีกา ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมในเดือนมีนาคมนี้เชื่อว่าจะเข้าสู่กระบวนการร่างพระราชกฤษฎีกาการป้องกันโรคสำหรับคนทุกคน

 

 

ทั้งนี้ในส่วนการให้บริการและกระทบกับประชาชนทุกหน่วยยังให้บริการเหมือนเดิมส่วนหน่วยบริการนอกเหนือ สปสช. ก็เดินสายขอความร่วมมือกับทุกแห่งเพื่อให้บริการเหมือนเดิมเชื่อว่าคงไม่มีผลกระทบกับผู้รับบริการส่วนเรื่องกฎหมายก็จะเร่งดำเนินการ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube