“นายกฯ”แจงอภิปราย รอบ2 ยืนยันให้ความสำคัญปฏิรูปตำรวจ สั่งสอบคนกระทำผิด ขณะน้ำท่วมแก้มาตลอด 8 ปี เพราะฝนตกหนักน้ำเลยท่วม เผย เป็นรัฐบาลที่ใช้หนี้มากที่สุด แซะฝ่ายค้านใช้เวทีสภาหาเสียงโครงการต่างๆ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงรอบที่ 2 ว่า ขอตอบเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ สิ่งที่ผู้อภิปรายพูด ตนได้ทำหมดแล้ว แต่ทำไมไม่เห็น โดยเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ยังมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพัน รับส่วย อบายมุข ยาเสพติด พนันออนไลน์ แต่งตั้งใช้ระบบเส้นสาย รัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปตำรวจอยู่แล้ว ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพโดยได้มีการปรับปรุงกฎหมายระเบียบ
ส่วนคดีอื่นตนคิดว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ผู้บังคับบัญชาต้องกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด คนเรามีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่ใช่ว่าเลวทั้งหมด ตำรวจใช้ไม่ได้ทหารก็แย่ ลองกลับมาย้อนดูตัวเองแล้วกัน ขอความเห็นใจด้วยตำรวจมีกำลังพลมากกว่าสองแสนนาย ทำงานดีๆ เยอะแยะ ไม่เช่นนั้น บ้านเมืองอยู่ไม่ได้ ตำรวจคนไหนเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันเรียกรับผลประโยชน์ แจ้งเข้ามาได้เลย รายใดยังไม่ชัดเจนเป็นข่าวทางสื่อโซเชียล ตนได้สั่งการไปแล้วให้เรียกมาสอบทุกราย
ส่วนเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง รายปีที่ผ่านมา ก็แก้ปัญหามาโดยตลอด ลองย้อนดู8 ปีที่ผ่านมา ทำอะไรไปบ้าง ที่บอกน้ำยังท่วมอยู่ ก็ยังท่วมเพราะฝนยังตก ถ้าฝนไม่ตกก็ไม่ท่วม ทั้งนี้ ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ กำลังชี้แจง ส.ส.ในห้องประชุมได้หัวเราะ พลเอกประยุทธ์จึงย้อนถาม ส.ส. ที่นั่งฟังว่า “หัวเราะอะไร” รู้หรือไม่ปริมาณน้ำสมัยก่อน ท่านทำน้ำท่วมเท่าไหร่ แล้วตนลดปริมาณน้ำลงไปเท่าไหร่ปี 54 เป็นอย่างไร ปี57 ปี 58 ปีที่แล้ว ท่วมมากเพราะอะไรเพราะฝนตกเกิน 500 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง รู้เรื่องบ้างไหม รายละเอียดถ้าติว่า ท่วมเพราะรัฐบาลไม่แก้ปัญหาตนมองว่า ไม่เป็นธรรม ส่วนในปี 2555-2565 หมู่บ้านที่เป็นพื้นที่ภัยแล้งลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า แม้รัฐบาลจะกู้เงินมาเยอะ แต่ก็ชำระหนี้สาธารณะได้เยอะที่สุด โดยได้ชำระให้บางโครงการของรัฐบาลก่อนปี 2557 จึงขออย่าอคติ ขอให้เปิดหู เปิดตา เปิดใจ ตนไม่ได้มาโอ้อวด แค่อยากกราบเรียนให้ทราบ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการฟื้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ในช่วงโควิดก็สามารถบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโรคจนได้รับการยกย่องจากทั่วโลก และคาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย 26.5 ล้านล้านคน จะสามารถส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวอาหาร
นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ ยังพูดถึงโครงการต่างๆ ที่ผู้อภิปรายได้เสนอมา เพื่อใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า การเสนอโครงการเยอะแยะไปหมด จะไปเลือกตั้งอะไรก็เชิญตามกำหนดเวลาทางกฎหมาย พร้อมยกตัวอย่างโครงการของพรรคเพื่อไทยที่ได้นำเสนอในการอภิปราย เช่น การเพิ่มอัตราเงินเดือน 25,000 บาทต่อเดือน จ้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง จะมีภาระงบประมาณเพิ่มขึ้น 516,22 ล้านบาท อีกนโยบายคือ การจ่ายบำนาญ 60 ปีขึ้นไป 3,000 บาทต่อเดือน ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง 9,000 บาท เด็กเยาวชน 7-22 ปีคนละ 800 บาท
เพิ่มเบี้ยเด็ก 0-6 ปี 1,200 บาทต่อเดือน ภาระงบประมาณจะเพิ่มขึ้นไป 791,340 ล้านบาท อีกนโยบายบำนาญประชาชนคนละ 3,000 บาทต่อเดือน เรียนฟรีถึงปริญญาตรีภาระงบประมาณเพิ่มขึ้น 346,546ล้านบาท จะออกนโยบายอะไรมาต้องดูเม็ดเงินว่าหามาจากที่ไหน เพราะตอนนี้เกลี่ยกันอยู่แล้วถ้ากระจายให้มากไป คนชอบแต่ท่าน ก็ต้องรับผิดชอบเอาเอง ถ้าหางบประมาณไม่ได้ เพราะฉะนั้นใครเสนออะไรก็ตาม ก็ต้องกรุณาแจ้งด้วยว่าเอาเงินมาจากไหน
อย่างไรก็ตาม ก่อนจบการชี้แจง พลเอกประยุทธ์ ได้กล่าวว่า ตนใช้เวลามาเยอะพอสมควรแล้ว ทำเยอะจนเมื่อยพูด และจะชี้แจงข้อมูลในสังคมโซเชียลให้โฆษกชี้แจงไป แล้วลองเขียนมาแล้วกันว่าท่านทำอะไรไปแล้วบ้างเสนอแต่จะทำนี่ ทำโน่นแล้วทำไมไม่ทำก่อนหน้านี้แล้วจะมาเคลมผมไม่ได้ ตนไม่ได้กล่าวหาใคร กล่าวลอยเฉยๆ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews