นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ จ.นครฯ 20 ก.พ.นี้ ติดตามการพัฒนา อ.จุฬาภรณ์ พร้อมตรวจวาระเมืองสิชล ยุติภัยพิบัติซ้ำซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ำ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ประเด็นการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ำซากและการบริหารจัดการในน้ำในพื้นที่
โดยช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.30 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ไปยัง อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนา อ.จุฬาภรณ์ และพบปะประชาชนในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์และพื้นที่ใกล้เคียง ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอจุฬาภรณ์ ศูนย์ราชการอำเภอจุฬาภรณ์ เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีสักการะหลวงพ่อวัดยางใหญ่ และนมัสการพระครูวินัยธร ณัฏฐาสันต์ สิทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดยางใหญ่ ณ วิหารหลวงพ่อวัดยางใหญ่ อ.ท่าศาลา และไหว้บูชาตาพรานบุญ ณ วิหารปฐมบรมครูตาพรานบุญ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปวัดเจดีย์ อ.สิชล กราบสักการะพระประธาน และนมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รวมทั้งไหว้บูชาตาไข่ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจติดตาม “วาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ำซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ำ” และทักทายประชาชน ณ วัดเจดีย์
ก่อนติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ำซากบริเวณคลองเปลี่ยนพื้นที่รอยต่อ ต.เปลี่ยน และ ต.เทพราช อ.สิชล โดย อ.สิชลและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาในด้านการบริหารจัดการน้ำ ในฤดูฝนและฤดูน้ำหลาก มักเกิดภาวะน้ำท่วมขังและอุทกภัยซ้ำซาก และจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.15 น.
นายกฯ ปลื้มเอกชนญี่ปุ่นเชื่อมั่นศักยภาพเศรษฐกิจไทย วางแผนขยายการลงทุนต่อเนื่อง มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 66 เติบโตได้ดีจากการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
รับทราบรายงานผลสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ประจำครึ่งปีหลัง พ.ศ. 2565 ซึ่งจัดทำโดยหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (Japanese chamber of commerce, Bangkok: JCCB) พร้อมทั้งยินดีที่ภาคเอกชนญี่ปุ่นยังคงให้ความเชื่อมั่นต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งมีแผนที่จะขยายการลงทุนมากขึ้น โดยคาดการณ์ GDP ปี 2566 จะเติบโตมากขึ้นจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการญี่ปุ่นร้อยละ 33 มีแนวโน้มจะขยายกิจการ และอาจย้ายฐานจากประเทศอื่นมายังประเทศไทย อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการญี่ปุ่นยังคงมองว่า ปัญหาราคาพลังงานสูง เงินเฟ้อ และดอกเบี้ยเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ สำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง โดยในครั้งนี้ได้ทำการสำรวจบริษัทสมาชิก ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 23 ธันวาคม 2565 โดยรายงานการสำรวจนี้ ถือเป็นการสำรวจเดียวที่สะท้อนสภาพธุรกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยได้อย่างครอบคลุม และเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลไทยในการปรับปรุงและแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนในประเทศไทยเป็นลำดับต้น ๆ
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ขานรับแนวนโยบายของรัฐบาลบูรณาการการทำงานส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อม ศักยภาพที่เอื้อต่อการลงทุน สร้างความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมหาศาล โดยในปี 2565 มีมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ สูงถึง 433,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จากปี 2564 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาและลดอุปสรรคต่อการลงทุน พร้อมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน สนับสนุนการแข่งขันของประเทศในภูมิภาค” นายอนุชา กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews