“แอมเนสตี้” ยื่นฝ่ายค้าน ผิดหวังชะลอบังคับใช้ กฎหมายอุ้มหาย ชี้มีแต่ผลเสีย ผู้เสียหาย ไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรม
“แอมเนสตี้” ประเทศไทย ตัวแทนนักกิจกรรม และญาติผู้เสียหายจากการทรมานและอุ้มหายยื่นข้อเรียกร้องต่อ พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยน.ส.ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ กล่าวว่าทางกลุ่มได้ติดตาม ความคืบหน้าของพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่มีกำหนด บังคับใช้ในวันที่ 22 ก.พ. 2566 มาโดยตลอด แต่การชะลอการบังคับใช้กฎหมายที่มีการผลักดันมามากกว่า 10 ปี และถือเป็นกฎหมายสำคัญที่นำไปสู่การป้องกันการทรมาน และการบังคับบุคคลให้สูญหายในประเทศไทย
ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจหลายประการที่ทางการไทยได้ประกาศไว้ในเวทีโลก อีกทั้งยังนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความจริงใจของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัวให้ได้รับสิทธิเรียกร้องตามกระบวนการยุติธรรมจากกรณีที่ถูกทรมานและบังคับให้สูญหาย
โดยน.ส.ปิยนุช กล่าวว่า การที่ ค.ร.ม. มีมติขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ในมาตรา 22-25 ออกไปนั้น ส่งผลให้ผู้เสียหายไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรม และเป็นเหตุให้ผู้เสียหายคนอื่นไม่กล้าออกมา ร้องเรียน และอาจกระทำการละเมิดเช่นนี้ได้อีกโดยไม่ต้องรับโทษ
ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ข้อเสนอแอมเนสตี้นั้นสอดคล้องกับข้อเสนอของพรรค ที่สนับสนุนการออกกฎหมายฉบับนี้มาตลอด หวังอย่างสูงว่าในวันที่ 22 ก.พ.2566 นั้น จะทำให้ประเทศไทยเข้าถึงอารยประเทศ ต่อสิทธิ์ที่ทำให้เกิดความมั่นใจต่อประชาชน ต่อสิทธิเสรีภาพของนักเคลื่อนไหว นักกิจกรรมตลอดจนถึงประชาชนทุกคนว่า วิธีการซ้อมทรมานและการอุ้มหาย จะไม่มีการซ้อมทรมานหรือการอุ้มหายเกิดขึ้นอีกในประเทศไทย และต้องให้ความเป็นธรรมกับกรณีที่มีการซ้อมอุ้มหายที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลว่า มีความพยายามที่จะเข้าชื่อเพื่อให้มีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้การอภิปรายต้องหยุดทันที คิดว่าเป็นการไม่เคารพต่ออำนาจที่ประชาชนมอบให้พวกเรา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews