หัวหน้าปชป. ยัน “เฉลิมชัย” พบ “อนุทิน” ไร้นัยยะปรับครม. เผย รอ “นายกฯ” ส่งสัญญาณ ยินดีกับคนที่ได้ประกันตัว – รอปปช.ฟันผิดอคส.คดีโกงถุงมือยาง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เตรียม ปรับครม. ว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้รับการแจ้ง และยังไม่ได้มีการประสานพูดคุยกัน โดยไม่ขอแสดงความเห็นว่าการปรับครม.ครั้งนี้ จะเป็นการปรับแค่ 3 เก้าอี้รัฐมนตรีที่ว่างลงหรือเป็นการปรับใหญ่ทั้งหมด เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นคนเดียวที่จะมีอำนาจพิจารณาได้ ส่วนตนสามารถพูดได้เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ และเมื่อถามว่าพรรคจะพิจารณาแค่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ ระบุว่าคงต้องหารือกันอีกครั้ง และ มองว่าเร็วเกินไปที่จะพูด โดยปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
- นายกฯเร่งปรับครม.โยนพรรคชงแคนดิเดตรมต.
- “สุชาติ”รับคุย”อนุชา-สมศักดิ์”3รมต.พ้นตำแหน่ง
- “สมศักดิ์”มองปรับครม.บางตำแหน่ง
- “วิษณุ”รับปรับครม.ไม่ยาก3รมต.พ้นตำแหน่ง
- “ประวิตร”ชี้ปรับครม.ขึ้นอยู่กับนายกฯ
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า พรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยทำงานร่วมใกล้ชิดกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรแปลกที่ทั้ง 2 คนจะพบปะพูดคุยกัน ส่วนการเลื่อนลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อหลังการพิพากษาของศาลนั้น ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไปพิจารณาให้เกิดความชัดเจน เวลานี้อยากแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้รับการประกันตัว เพราะการได้รับอิสรภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
นายจุรินทร์ ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท ว่า ทางผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.ได้ส่งเรื่องให้ทางปปช.เป็นผู้ชี้มูลความผิดแล้วว่าจะต้องมีบุคคลใดรับผิดชอบในกรณีดังกล่าวและต้องรับผิดชอบอย่างไร โดยการทำงานของปปช.นั้นไม่สามารถก้าวล่วงได้ ว่าจะเสร็จสิ้นเวลาในการพิจารณาเมื่อไหร่ และสำหรับตัวประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า หรือ ปธ.บอร์ดอคส.นั้น จะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับตัวประธานเองว่าจะแสดงความรับรับชอบอย่างไร ตนไม่สามารถสั่งการณ์ได้และไม่ได้มีการหารือเป็นการส่วนตัว
แล้วในส่วนของการตั้งคณะกรรมการสอบของ อคส.เองนั้น เบื้องต้นฝ่ายกฎหมายระบุว่าสัญญาทุกฉบับเป็นโมฆะ เพราะผู้ลงนามไม่มีอำนาจ โดยสัญญาทั้งหมดเสมือนไม่เคยกระทำนิติกรรมผูกพันกับทางอคส.และที่ได้มีการโอนเงินมัดจำ 2,000 ล้านบาทไปแล้วนั้น จะต้องมีการเรียกคืนกลับมายังอคส.ทั้งหมด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news