Home
|
ข่าว

นายกฯ หารือทูตสวิสฯ ย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น

Featured Image
นายกฯ หารือทูตสวิสฯ ย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เพิ่มพูนความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน สิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยว

 

 

 

นายเปโดร สวาห์เลน (H.E. Mr. Pedro Zwahlen) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทยในโอกาสเข้ารับหน้าที่ พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิส โดยทั้งสองฝ่ายได้ฉลองโอกาสครบรอบ 90 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน

 

ไปเมื่อปี 2564 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในทุกระดับมาโดยตลอด แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 พร้อมทั้งยืนยันความตั้งใจที่จะร่วมมือกับเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ อย่างเต็มที่ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับประชาชนทั้งสองประเทศ

 

เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่สวยงาม พร้อมทั้งชื่นชมบทบาทนายกรัฐมนตรีในการบริหารจัดการการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี และเป็นเวทีที่สามารถผลักดันโมเดลเศรษฐกิจ BCG ให้เป็นเป้าหมายสำคัญที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจร่วมกันรับรอง นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิสที่มีความใกล้ชิดกันในทุกระดับ และพร้อมที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นในทุกมิติ

 

 

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้ ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรียินดีที่สมาพันธรัฐสวิสเป็นประเทศหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในยุโรป และมีบริษัทชั้นนำกว่า 150 บริษัท เข้ามาลงทุนในไทย อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ไทยและสมาพันธรัฐสวิสยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

 

 

โดยนายกรัฐมนตรีเชิญชวนนักลงทุนจากสมาพันธรัฐสวิสเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในสาขาที่ทางสมาพันธรัฐสวิสมีความเชี่ยวชาญ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณสมาพันธรัฐสวิสที่สนับสนุนการฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) มาโดยตลอด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุผลการเจรจาได้โดยเร็ว ทางด้านเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ เห็นพ้องว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก โดยพร้อมผลักดันการฟื้นการเจรจา EFTA ให้สำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มพูนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน

 

 

ด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและสมาพันธรัฐสวิสได้ลงนามข้อตกลงการดำเนินงานภายใต้ความตกลงปารีสร่วมกัน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ซึ่งครอบคลุมการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันดำเนินโครงการรถขนส่งมวลชนไฟฟ้าในประเทศไทย (e-bus) ซึ่งจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาและถ่ายทอดทางเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งสู่การขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังสะท้อนความร่วมมือด้านถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศคู่แรกของโลกภายใต้ความตกลงปารีส และเป็นการย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามที่ได้ประกาศไว้ต่อประชาคมโลก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทางสมาพันธรัฐสวิสเพิ่มพูนความร่วมมือกับไทยมากขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต และการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา PM2.5 ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ ตลอดจนดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังมาโดยตลอด

 

ด้านการท่องเที่ยวทั้งสองฝ่ายยินดีที่ประชาชนทั้งสองประเทศ แลกเปลี่ยนการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น นายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายสมาพันธรัฐสวิสฯ สนับสนุบให้นักท่องเที่ยวชาวสวิสเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมากขึ้น

 

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกประเด็นที่ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Expo 2028 – Phuket, Thailand ภายใต้หัวข้อ “Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity” โดยขอให้สมาพันธรัฐสวิสพิจารณาให้การสนับสนุน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube