“ทิพานัน” ย้อน “เพื่อไทย” ตรรกะวิบัติ ใช้วาทกรรมเชิงลบตีตราผู้มีสิทธิถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.59 ล้านคน เป็นคนจน-รัฐล้มเหลว วอนผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์รีบยื่นอุทธรณ์
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกมาให้ร้ายว่าผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เป็นหลักฐานความล้มเหลวการบริหารจัดการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า เป็นตรรกะวิบัติ พรรคเพื่อไทยมักจะใช้วิธีการเดิมๆ ในการโจมตีทางการเมือง
จึงขอเรียกร้องว่าอย่าใช้วาทกรรมเช่นนี้ตีตรา ประชาชน อาจส่งผลกระทบให้ประชาชนต้องเสียสิทธิในการได้รับการดูแลสวัสดิการจากรัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจจริง ในการลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่ม ที่โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสะท้อนถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการของที่เข้าถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่รอบคอบ รัดกุม ทันสมัยอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด
ทั้งนี้ ความพยายามบิดเบือนให้นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีความหมายในเชิงลบของพรรคเพื่อไทย ที่มักออกมาแสดงความคิดเห็นดูแคลนประชาชนที่มารับสิทธิ์ว่าจน ทั้งที่เป็นเกณฑ์การรับสิทธิ์ไม่ใช่เกณฑ์ความยากจน แต่เป็นเกณฑ์ที่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยควรได้รับการดูแลจากรัฐและกลุ่มเปราะบางต่างๆ ควรได้รับ ซึ่งฐานผู้มีสิทธิ์ จะกว้างกว่าใช้เกณฑ์ความจนมาเป็นเกณฑ์ตัดสิน จะเห็นว่ารัฐบาลเปิดโอกาสให้กลุ่มต่างๆ เข้ามามีสิทธิ์มากขึ้น ซึ่งไม่อาจเหมารวมว่าคนจนมากขึ้น 14.59 ล้านคนได้
ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทย มักกล่าวถึงนโยบายบัตรสวัสดิการฯ ในเชิงลบด้อยค่า กล่าวหาว่ารัฐบริหารล้มเหลวคนจนเยอะขึ้น อาจทำให้ประชาชน 14.59 ล้านคน และร้านธงฟ้า 138,073 ร้านค้า สามารถคิดไปได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุน นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่สนับสนุนให้ประชาชนได้รับบัตรสวัสดิการฯ ทั้งที่บัตรนี้จะสามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้น้อยลงได้ สามารถช่วยให้ความเป็นอยู่พี่น้องดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 รีบยื่นขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-1 พฤษภาคม 2566 (62 วัน) โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
1. ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต> https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น.ของทุกวัน หรือ
2. ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews