นายกฯ ชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์และ coding เป็นรูปธรรม วางรากฐานสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี นำประเทศไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ.
เข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อนำเสนอนิทรรศการ “โครงการขับเคลื่อน การจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณและการออกแบบเทคโนโลยี” ตามนโยบายของรัฐบาล ที่มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และวิทยาการคำนวณ ให้เป็นรูปธรรม
นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการโค้ดดิ้งชายทุ่ง หมายมุ่ง ฟ.ฟาร์ม โรงเรียนรวมจิตประสาท สพป.ปทุมธานี เขต 2 ที่แบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม ประกอบด้วย 1) Unplugged Coding เรื่องจริงที่ “ทำแล้ว” เป็นการมาวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึง จุดสิ้นสุด 2) Unplugged Coding เรื่องจริงที่ “ทำอยู่” อัลกอริทึม หัวใจสำคัญของ Unplugged Coding เป็นกระบวนการการลำดับความคิดจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสิ้นสุด 3) Unplugged Coding เรื่องจริงที่ “ทำต่อไป” เป็นการเชื่อมโยงจาก Unplugged Coding มุ่งสู่ In plugged Coding การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้กับกิจกรรมในโรงเรียน
โดยมีการนำตัวอย่างการเรียนโค้ดดิ้ง (Coding) ในเด็กเล็ก เช่น การเล่นเกมบันไดงู โดยให้เด็กฝึกคิดเพื่อหาทางออกทีละขั้นผ่านการใช้คำสั่งลูกศร ซ้าย ขวา หน้า หลัง เป็นต้น ซึ่งหลักสูตรโค้ดดิ้ง (Coding) จะช่วยส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณให้ผู้เรียนในทุกช่วงวัยได้อย่างเหมาะสม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการที่ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญที่มุ่งสู่การศึกษาในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการศึกษา ที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทยพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เฉพาะมุ่งการเรียนการสอนไปที่ครูและนักเรียนเท่านั้น แต่ต้องกระจายไปสู่ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกช่วงวัยให้ได้มากที่สุด
รวมถึงปูพื้นฐานการปฏิรูปการศึกษาไปถึงเด็กทุกคนโดยไร้ขอบเขต สร้างโอกาสเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้มีทักษะชีวิตที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้ โดยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้ในกระบวนการการเรียนการสอน ซึ่งได้ขยายโอกาสให้เด็กนักเรียนทุกคนต้องได้เรียนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างทั่วถึง รวมไปถึงโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีต เป็นการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาประยุกต์กับภาคการเกษตร อีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews