ครม. เห็นชอบการกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำปี65 ในรูปแบบสลากฯ 6 หลัก และสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก หวังเพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากแบบถูกกฎหมายมากขึ้น
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการการกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำปี 2565 ได้แก่ สลากฯ 6 หลัก (Lottery 6: L6) และสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก (Numbers 3: N3) หวังเพิ่มช่องทางจำหน่ายสลากฯ ในรูปแบบดิจิทัล จากการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย เพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากแบบถูกกฎหมายมากขึ้น โดยผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลข ได้ตามความต้องการ ช่วยลดการเสี่ยงโชคนอกระบบและผิดกฎหมายให้ลดน้อยลง
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้จัดทำแผนวิสาหกิจประจำปี 64-70 ซึ่งกำหนดเป้าหมายระยะสั้นให้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ โดย ในประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อ 28 เม.ย.65 เห็นชอบ การกำหนดประเภทและรูปแบบสลากฯ ประจำปี 2565 ได้แก่ สลากฯ L6 และสลากฯ N3 สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ รูปแบบสลากฯ ได้แก่ สลากฯ 6 หลัก (Lottery 6: L6) ประกอบด้วยตั้งแต่ 000000 – 999999 จำหน่ายออกเป็นชุด ชุดละ 1 ล้าน ฉบับ/รายการ
โดยเป็นการกำหนดหมายเลขไว้ล่วงหน้า (มีหมายเลขจำกัด) ไม่สามารถเลือกเลขซ้ำกันได้ในแต่ละชุด โดยจำหน่ายทั้งแบบใบ และแบบดิจิทัล (เป็นรูปแบบเดียวกับที่ สนง.สลากฯ ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน), สลากฯ ตัวเลข 3 หลัก (Numbers 3: N3) ประกอบด้วยหมายเลข 3 หลัก ตั้งแต่ 000 – 999 ไม่มีการกำหนดหมายเลขไว้ในระบบ ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ ตามความต้องการ ซึ่งทุกๆ การซื้อ 1 รายการ จะได้ หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข (เป็นรูปแบบใหม่ที่ สนง.สลากฯ ยังไม่เคยดำเนินการมาก่อน) ทั้งนี้ จำหน่ายเฉพาะแบบดิจิทัล
ด้านการจ่ายเงินรางวัลนั้นเงินรางวัลคิดเป็นร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่ายสลากในแต่ละงวด โดยกำหนดสัดส่วนในการจัดสรรเงินรางวัลประเภทต่าง ๆ ดังนี้
สลาก L6 มีเงินรางวัล 9 ประเภท คือ รางวัลที่ 1 (1 รางวัล) รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 (2 รางวัล) รางวัลที่ 2 (5 รางวัล) รางวัลที่ 3 (10 รางวัล) รางวัลที่ 4 (50 รางวัล) รางวัลที่ 5 ( 100 รางวัล) รางวัลเลขหน้า 3 ตัว (2,000 รางวัล) รางวัลเลขท้าย 3 ตัว (2,000 รางวัล)
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว (10,000 รางวัล) (ไม่สมทบเงินรางวัล กรณีที่งวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล ให้นำเงินรางวัล ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน)
สลาก N3 มีเงินรางวัล 4 ประเภท ได้แก่ รางวัล 3 ตรง (ถูกทุกหมายเลขและทุกตำแหน่ง) ร้อยละ 30
รางวัล 3 สลับหลัก (ถูกทุกหมายเลขแต่สลับตำแหน่ง) ร้อยละ 30
รางวัล 2 ตรง ถูกทุกหมายเลขและทุกตำแหน่ง ร้อยละ 39
และรางวัลพิเศษ (ตรงกับรางวัลพิเศษ) ร้อยละ 1 นอกจากนี้จะมีการสบทบเงินรางวัล กรณีที่งวดใด ไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำเงินรางวัลในงวดนั้นไปสมทบเพี่อจ่ายเป็น เงินรางวัลในงวดถัดไปอีก 1 งวด และหากไม่มีผู้ถูกรางวัลอีกให้นำเงิน รางวัลส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
กระทรวงการคลัง แจ้งว่า การกำหนดประเภทสลากฯ ทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าว เชื่อได้ว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากฯ เกินราคาได้ เนื่องจากเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสลากฯ ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งมีการกำหนดราคาซื้อ – ขายจากระบบการจำหน่ายได้เอง และการจำหน่ายสลากฯ N3 ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามความต้องการ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากฯ แบบถูกกฎหมายมากขึ้น ช่วยให้การเสี่ยงโชคนอกระบบและผิดกฎหมายลดน้อยลง นอกจากนี้ การจำหน่ายสลากฯ ทั้ง 2 รูปแบบจะช่วยให้ สนง.สลากฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีเงินนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินเพิ่มขึ้นด้วย
ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำในที่ประชุมครม. ให้พิจารณาดำเนินการด้วยความรัดกุม รอบคอบและเหมาะสม โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขายที่เป็นผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ นอกจากนี้ ให้พิจารณาข้อจำกัดในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยขายสลากแบบดิจิทัลด้วย รวมทั้งดูแลกลมุ่ผู้ขายสลากฯ แบบใบ ที่อาจมีรายได้ลดลงจากการถูกปรับลดจำนวนสลากฯ เนื่องจากมีการขายสลากฯ แบบดิจิทัลควบคู่กัน เป็นต้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews