พปชร. เปิดตัว “อดีต รมว.คลัง-นักวิชาการพลังงาน ร่วมทีม ศก. มั่นใจเสริมทีมแข็งแกร่ง ยืนยัน ไร้ปัญหา ทำงานกับ “มิ่งขวัญ” ได้ บอก ไม่แข่งกับพรรคอื่น ขอสู้เพื่อประชาชน – ถามกลับ กินข้าวกับ “อนุทิน” ไม่ได้หรือ ปัด จับขั้วการเมืองใหม่ โบ้ยสื่อ คิดไปเอง
พรรคพลังประชารัฐ นำโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรคพลังประชารัฐ ,นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ,นายสนธิรัตน์ สธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมืองพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน เป็นทีมนโยบายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ
โดยพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอขอบคุณทั้ง2 คน และแสดงความยินดี ที่ให้เกียรติมาร่วมทำงานกับทางพรรคและทำงานเพื่อประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐพร้อมที่จะแก้ปัญหาให้กับบ้านเมืองให้มีกินมีใช้ ยกระดับความเป็นอยู่ให้กับประชาชนได้จึงขอฝากผ่านสื่อมวลชนว่าพรรคพลังประชารัฐมีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมทำงานให้กับประชาชน
ขณะที่การวางบทบาทการทำงานร่วมกันกับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ นั้น ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไรสามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะทุกคน ล้วนมีความรู้ ความสามารถรับรองว่าผลงานออกมาดีอย่างแน่นอน
ส่วนทีมเศรษฐกิจจะมีใครมาเพิ่มเติมหรือไม่นั้นพล.อ.ประวิตร ระบุว่า แค่นี้ก็เพียงพอ ที่จะทำงานให้กับบ้านเมืองแล้วเพราะทุกคนล้วนเป็นคนที่มีความสามารถ พร้อมยืนยันว่าทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐไม่ไปสู้กับพรรคอื่นไม่ไปสู้กับใครแต่จะสู้กับประเทศชาติสู้กับเศรษฐกิจเพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดีมีความเท่าเทียมกันทุกคน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามพล.อ.ประวิตร ถึงประเด็นการเมือง ที่ปรากฏภาพการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. จ.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย นั้น พล.อ.ประวิตรถามกลับว่า “กินไม่หรือ” ทำไมอยากรู้กันนัก
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการจับขั้วทางการเมืองใหม่ระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้นพลเอกประวิตรกล่าวตอบว่า “ผมไม่รู้ คุณคิดกันไปเอง”
ผู้สื่อข่าวพยายามถามต่อว่า จะไปกินข้าวกับพรรคอื่นอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า “ก็เรื่องของผม ผมจะไปกินอะไร”
ขณะที่ นายสันติ กล่าวว่า ทั้ง 2 คนเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอีกท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอุดมการณ์ที่จะมาช่วยงานพรรคพลังประชารัฐ ในการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจเพื่อประชาชนในหลายๆด้าน เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเป็นที่พึ่งของประชาชน เพราะพรรคประชารัฐทำทันที ในทุกนโยบาย
ด้านนายธีระชัย ได้ขอบคุณพล.อ.ประวิตร ที่ให้เกียรติเชิญเข้ามาร่วมงานกับพรรค พร้อมให้เหตุผลการตัดสินใจตอบรับเพราะประเทศกำลังจะประเชิญปัญหาใหญ่ในอีก3-4 ปีข้างหน้า ที่เกิดจากภูมิศาสตร์ของโลก ซึ่งจะเป็นคลื่นลูกใหญ่จะซัดเข้ามาทั้งด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรวมถึงปัญหาที่สะสมมาหลายปีเช่นปัญหาเศรษฐกิจการเงินโลก การบริหารประเทศต้องเพิ่มนโยบายที่เน้นทำให้ประชาชนมีความเข้มแข็งในตัวเอง โดยใช้ศาสตร์ของพระราชาอย่างแท้จริงไม่ใช่รอว่าเมื่อไหร่จะมีนายกรัฐมนตรีที่เด่นดัง
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการบริหารประเทศไม่ได้ทำให้เกิดความสมดุลย์ระหว่างผลประโยชน์ของผู้บริโภคกับนายทุนเอกชน รวมถึงต้องเพิ่มนโยบายที่ขจัดความขัดแย้งเปิดรับฟังปัญหาความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริงโดยการจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้พรรคการเมืองจะต้องเปิดกว้างให้นักวิชาการมืออาชีพมาเข้าร่วมงานพรรคการเมือง ทำให้เกิดความสมดุลย์แก่ประโยชน์ของประชาชนมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวเห็นแล้วว่าพรรคพลังประชารัฐจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เพราะจะมีโอกาสทำงานเพื่อประชาชนสร้างสมดุลย์ระหว่างนายทุนกับประชาชน พร้อมเชื่อว่าแนวคิด Thailand Reset พริกมุมคิดเศรษฐกิจไทยเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ขณะที่ ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะตนทำงานด้านนโยบายมาอย่างต่อเนื่องถึง 15 ปีและมองเห็นแล้วว่าการจัดการเรื่องพลังงานต้องนึกถึงผลประโยชน์สูงสุดต่อ ประชาชนและไม่เคยได้ยินพรรคการเมืองไหนพูดถึงเรื่องนี้จน จนได้มาพบกับพล.อ.ประวิตร ทำให้ได้ทราบว่าพรรคพลังประชารัฐไม่
ไม่ใช่มีเจตนาแค่ลดราคาพลังงานอย่างเดียว แต่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ตั้งแต่โครงสร้าง ที่สำคัญยังมีการมองปัญหาแบบองค์รวม ว่าจะจัดการปัญหาอย่างไร ซึ่งพล.อ.ประวิตร ถือเป็นคนที่ใจกว้างและรับฟังพร้อมแลกเปลี่ยนปัญหาไปด้วยกัน ซึ่งตนมองว่าเป็นประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานที่มีการรับฟังกันอย่างเต็มที่ภายในพรรค จึงเชื่อว่านโยบายด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องพลังงานจะถูกคัดกรองอย่างดีเพื่อยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
และหากพล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะมีตำแหน่งเป็นประธานนโยบายกรรมการพลังงานแห่งชาติและเชื่อว่านโยบายพลังงานจะต้องถูกผลักดันให้สำเร็จจนได้ และหากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นโยบายของพรรคจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตประชาชนให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews