“เศรษฐา” ร่วมเล่นกีฬาและรับฟังปัญหาเยาวชนเขตบางกะปิ
“เศรษฐา” ร่วมเล่นกีฬาและรับฟังปัญหากับเยาวชนในเขตบางกะปิ มองจดหมาย บทสรุป “ก้าวข้ามความขัดแย้ง”ของพลเอกประวิตร เป็นเรื่องดี ไม่ตอบจับขั้วการเมือง ขอมุ่งแลนสไลด์ 310 เสียง ยินดีสมศักดิ์- สุริยะ ร่วมพรรค
พรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการ (ผอ.) การเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร นายดนุพร ปุณณกันต์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ปนะธานภาค กทม. และนายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ กทม.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยทีมงานพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับแม่ค้าภายในตลาด และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ พร้อมกันนี้ ได้ร่วมรับฟังปัญหาจากเยาวชนในพื้นที่เกี่ยวกับความต้องการแต่ละด้าน
โดยเฉพาะด้านกีฬา เพื่อนำมาจัดทำเป็นนโยบาย โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า กีฬา เล่นเดิมๆ คงไม่สนุก อาจจะต้องจัดงบส่วนหนึ่งให้เยาวชนได้จัดการแข่งขันข้ามโซน เพื่อให้เกิดความสนุกมากขึ้น เมื่อเยาวชนเล่นกีฬา คงมีความฝันที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุด อีกทั้งปัญหาที่ได้รับฟังในวันนี้ ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะกีฬาเป็นเรื่องของทุกคน เป็นเรื่องของสุขภาพร่างกาย เป็นหนทางในการประกอบอาชีพด้วย
ถึงแม้บางคนไม่ได้มีความสามารถสูง การที่เราจัดพื้นที่ให้เหมาะสมและครอบคลุมกีฬาทุกประเภท ก็จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่หมกมุ่นกับยาเสพติด นอกจากนี้ นายเศรษฐา และผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมเล่นกีฬาบาสเกตบอล และฟุตซอล กับกลุ่มเยาวชนในพื้นที่
ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา กล่าวถึงจดหมายของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่กล่าวถึงบทสรุปของความขัดแย้งว่า ตนยังไม่ได้อ่านจดหมาย แต่เมื่อได้ยินคำว่า “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี เพราะพูดกันหลายครั้งแล้วในเรื่องนี้
ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้ขัดแย้งกับใคร มีความขัดแย้งกับความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม จากนี้จนถึงเลือกตั้ง พยายามเร่งที่จะกลั่นนโยบายที่โดนใจประชาชนออกมา ทั้งนี้ มองการออกจดหมายของพลเอกประวิตร ดูเหมือนจะอยากจับมือกับทุกพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดตรงนั้น ดูแต่พรรคเพื่อไทยอย่างเดียว เพราะมีจุดมุ่งหมายที่ต้องได้คะแนนเสียงที่เยอะที่สุด และช่วงนี้เป็นเรื่องที่ต้องจัดทำนโยบายเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วประเทศฟัง
ส่วนการอนุมัติงบประมาณเทกระจาดเป็นแสนล้านใน ครม. นัดสุดท้ายนั้น เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ การติดตามว่าเพื่อประชาชนจริงหรือไม่ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับข้อความไว้วางใจให้มาอยู่ในสภาเชื่อว่าการตรวจสอบจะเข้มแข็งและสามารถกำหนดนโยบายที่เป็นประโยชน์ ซึ่งสามารถคำนวณงบประมาณได้ ขณะการขึ้นค่าตอบแทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน มองว่าเป็นการหาเสียงหรือไม่นั้น
นายเศรษฐา มองว่า การเพิ่มรายได้เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องดูด้วยว่าวินัยการเงินการคลังของประเทศ อยู่ตรงจุดไหน ไม่ได้ดูตัวเลข และที่สำคัญต้องดูด้วยว่า ภาครัฐจะนำงบประมาณมาจากไหน และจะนำงบประมาณกลับมาอย่างไร จะมีรายได้ได้อย่างไร ต้องดูองค์รวมทั้งหมด
สำหรับกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ย้ายมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยนั้น จะเป็นการตอกย้ำว่าพรรคจะได้เสียง 310 เสียงในสภาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายที่จะเผยแพร่ออกไป เพราะในอดีตตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชนจนถึงเพื่อไทย เราใช้นโยบาย ทำได้จริง คิดใหญ่ ทำเป็น ส่วน ส.สที่จะย้ายมาเชื่อว่าทุกคนมีความเชื่อในนโยบายและคงช่วยกันไปให้จนถึงจุดมุ่งหมาย ตนก็ยินดีต้อนรับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews