“ธนาธร-ไอติม” นำทีมผู้สมัครก้าวไกลสมุทรปราการ 8 เขตขึ้นรถ ลงเรือ เดินตลาดหาเสียง ชี้ ประเทศไทยจะไปต่อ ต้องเปลี่ยนการเมือง กล้าปฏิรูปชนต้นตอปัญหา
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ร่วมหาเสียงกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคก้าวไกล โดยเดินชุมชนพบปะพูดคุยกับประชาชนภายในหมู่บ้านสยามนิเวศน์ 1 และ 2 ร่วมกับนายบุญเลิศ แสงพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 ก่อนเดินทางมายังตลาดเทศบาลเมืองพระประแดง ร่วมเดินหาเสียงพบปะชาวตลาดและชุมชนกับ นายวีรภัทร คันธะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 6 จากนั้นเดินทางไปยังตลาดปากน้ำและชุมชนโดยรอบ ร่วมกับน.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 และน.ส.รัชนก สุขประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 ก่อนร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงที่ อ.สำโรง ร่วมกับนายพิชัย แจ้งจรรยาวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 3, นายวุฒินันท์ บุญชู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 4, น.ส.นิตยา มีศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 และนายตรัยวรรธน์ อิ่มใจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 8
โดยนายธนาธร ระบุว่า พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทุกที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไปต่อไม่ไหวแล้ว นี่คือผลพวงจากวิกฤติโควิดที่ไม่ได้เป็นความผิดของประชาชนเลย และนี่ยิ่งเป็นเหตุผลให้ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างรัฐสวัสดิการขึ้นมา เพราะหากประชาชนอยู่ในสภาพอ่อนล้าเช่นนี้ ประเทศชาติจะเข้มแข็งได้อย่างไร ประเทศไทยไม่สามารถสร้างอนาคตจากการแจกเงินอย่างเดียว แต่ต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่มาสร้างงานให้ประชาชน หลายคนบอกว่าพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้เป็นพรรคที่สุดโต่ง แต่ความจริงแล้วทุกข้อเสนอของพรรคก้าวไกลคือข้อเสนอขั้นต่ำของทุกประเทศที่เจริญแล้วบนโลก คำถามคือสรุปแล้วพรรคก้าวไกลสุดโต่งหรือประเทศของเราล้าหลังเกินไปกันแน่ และการที่คนจำนวนหนึ่งไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเป็นเพราะระบบแบบนี้กำลังเอื้อประโยชน์ให้คุณอยู่ใช่หรือไม่ ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกล สมุทรปราการเป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย แต่คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นบ้างหรือไม่
ภายใต้ระบบที่เป็นมา น้ำในคลอง ขยะหน้าบ้าน ฟุตบาทริมทาง ถนนหนทาง ดีขึ้นบ้างหรือไม่ จากการเมืองแบบเดิม
การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก หนึ่งเสียงของทุกคนกำหนดอนาคตของประเทศไทยได้ ขออย่าชินชากับการเมืองแบบเดิมๆที่ไล่เก็บบัตรประชาชนก่อนวันเลือกตั้ง ความยากจน ความไม่ยุติธรรม การเอารัดเอาเปรียบ จนยอมรับและรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วอำนาจอยู่ในมือของทุกคน ที่จะทำให้ชีวิตของเราดีกว่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องยอมจำนน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พิษณุโลกเขต 1 และอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนี้จะมีประชาชนจำนวนมากเสียสิทธิจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประชาสัมพันธ์การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า การเลือกตั้งนอกเขต และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรน้อยเกินไป
ซึ่งจากการที่ กกต. กำหนดให้วันเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค.66 ไม่ได้ตรงกับช่วงวันหยุดยาว 4-7 พ.ค.อาจทำให้ประชาชนหลายคนไม่ว่าจะเป็นคนที่ออกไปหางานทำที่ต่างจังหวัด นักเรียน-นักศึกษา เกิดความไม่สะดวกในการกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ กกต.กลับประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตน้อยมาก ทำให้ประชาชนที่ไม่สะดวกใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. เสมือนเสียสิทธิเลือกตั้งไปโดยปริยาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews