“วราวุธ” ยันไม่มีการทาบทามแลกกระทรวง กับ “ธรรมนัส” ย้ำทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ขอพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันยังไม่มีการติดต่อทาบทามแลกกระทรวงกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีกระแสข่าวจะนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กับกระทรวงทรัพย์ฯ และขณะนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองที่จะพิจารณาซึ่งการเกิดข่าวลือในการแลกกระทรวงเป็นเรื่องปกติในช่วงปรับ ครม. โดยทั้งหมดต้องมีการพูดคุยกันก่อน แต่ตนไม่ขอพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น ขอให้เกิดขึ้นจริงก่อนจึงจะนำเข้าที่ประชุมพรรคเพื่อหารือถึงความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ไม่ขอปฎิเสธหรือยอมรับถึงการแลกกระทรวงหากเกิดขึ้นจริง โดยย้ำว่าขอให้มีการพูดคุยหรือติดต่อเข้ามาก่อนจึงจะมีการเคลื่อนไหวของพรรค และตนมองว่าคนจะทำงานต้องไม่เลือกที่แต่บทบาทในกระทรวงทรัพย์ฯ ยังมีภารกิจอีกมากตลอดการทำงาน 1 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมาได้มีการแก้ปัญหาได้หลายอย่างและตนยังคงทุ่มเทอย่างเต็มที่
นายวราวุธ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวยุบสภา ว่าต้องดูถึงสาเหตุการยุบสภาเกิดจากสาเหตุใด หากหลายต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงหากภายใต้รัฐธรรมนูญ เลือกตั้งเข้ามาแล้วยังได้องค์ประกอบเดิม เลือกตั้งยุบสภาไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวราวุธ เดินมาถึงทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินเข้ามาจับมือทักทาย โดยสื่อมวลชนได้แซวว่าเป็นการตกลงแลกกระทรวงกันแล้วหรือไม่
“วราวุธ”ยันเจรจาบางกลอยยังไม่ล่ม แต่ยังไม่จบ ย้ำเร่งหาวิธีเยียวยาประชาชน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุถึงกรณีข้อพิพาทป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่มีการเจรจาที่ไม่สำเร็จว่า ไม่ถือว่าล่ม เพียงแต่การเจรจาครั้งนี้ยังไม่จบ แต่มีหลายฝ่ายพยายามโยงให้เป็นประเด็นกลุ่มชาติพันธุ์หรือเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องดราม่าที่สังคมชอบ แต่ผลกระทบที่หนักที่สุดจะตกอยู่ที่ชาวบางกลอย ยืนยันว่าสิ่งที่กระทรวงทรัพย์ฯทำอยู่ คือการเร่งหาวิธีการเยียวยาประชาชนกว่า 100 ชีวิต ทั้งเรื่องที่ดินทำกิน สิ่งอำนวยความสะดวกและน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งยืนยันว่า การปกคลุมพื้นที่ป่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งต้องยึดการทำงานตามกฎหมายทุกอย่าง แต่ยืนยันว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้แล้วเสร็จในปีนี้อย่างแน่นอน
ส่วนการนำเจ้าหน้าที่ไปกดดันในพื้นที่นั้น นายวราวุธ มองว่าหลายกลุ่มชอบขยายความซึ่งต้องชี้แจงว่า พื้นที่อนุรักษ์คือพื้นที่อ่อนไหวเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปก็จะเกิดปัญหา ส่วนที่มีการอ้างว่าเป็นพื้นที่เดิมในการทำการเกษตร หากมีการสำรวจภาพถ่ายทางอากาศจะพบว่าไม่ใช่ที่เดิม ฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงขึ้นไปดูแลเพื่อไม่ให้เกิดการบุกรุก จึงเป็นการปกป้องสิทธิมนุษยชนของคนไทยที่จะมีผืนป่าที่สมบูรณ์เช่นกันรักษาป่าต้นน้ำเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ หากมองว่าข่มขู่ก็พูดง่าย คนไม่อยู่ในพื้นที่ก็พูดไปต่างๆ นานา และย้ำว่าต้องพูดกันตรงๆ หลายคนอยากให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่าความรุนแรงไม่ใช่นโยบายของรัฐแต่ทุกคนต้องทำตามกฎหมาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news