เพื่อไทยแถลงตั้งทีมแก้ปัญหาสังคม-ความเหลื่อมล้ำ”ชัยเกษม”นำทีม ประกาศลดความเหลื่อมล้ำ คืนประชาธิปไตยสู่ประชาชน ด้าน”ภูมิธรรม” ชู 5 หลักเสมอภาคในระบอบประชาธิปไตย
พรรคเพื่อไทย นำโดยนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวการแต่งตั้งคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม
โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า สภาพปัญหาด้านสังคมของประเทศขณะนี้ได้สร้างผลกระทบในภาพรวมต่อการดำเนินชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน กระทบต่อความมั่นคงของประเทศจากปัจจัยหลายด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงจากสังคมชนบท เป็นสังคมเมือง การพัฒนาด้านเทคโนโลยี ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด อาชญากรรม การทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาของรัฐธรรมนูญและระบบการเมือง ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีกฎหมายที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน การบังคับใช้กฎหมายที่เป็นสองมาตรฐาน และปัญหาความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม เป็นต้น ปัญหาดังกล่าวนับวันจะมีความซับซ้อน และรุนแรงจำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขด้วยการปฏิรูปสังคม ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและขจัดความเหลื่อมล้ำ
สร้างความเป็นประชาธิปไตยและความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม เพื่อให้สังคม ของไทยกลับมาสู่สังคมแห่งความสมานฉันท์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การจัดทำนโยบายที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาสังคมอย่างเป็นรูปธรรม จึงสมควรมีบุคลากร ของพรรคที่มีความรู้ ความสามารถได้ร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ถึงต้นตอของปัญหาและแนวทางแก้ไขจะทำให้การปฏิรูปสังคมและการขจัดความเหลื่อมล้ำ เกิดเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง จึงได้แต่งตั้ง คณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม ขึ้น
โดยมีนายชัยเกษม เป็นประธานคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม, นายชูศักดิ์ เป็นรองประธานกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม, นายภูมิธรรม เป็นกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม , นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม เป็นต้น
นายชัยเกษม กล่าวว่า คณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม จะทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ สรุปสภาพสังคม และความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม กำหนดแนวทางและกระบวนการปฏิรูปสังคม ปัญหากฎหมายลิดรอนสิทธิเสรีภาพ อาชญากรรมทางไซเบอร์ รวมถึงการทุจริต วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบและการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เป็นต้น ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรามองภาพกว้างของสัมคมว่า เมื่อเกิดปัญหาบิดเบือนสิ่งที่ควรจะเป็น นับตั้งแต่การปฏิวัติ เรายินดีจะรับข้อเสนอแนะทุกอย่าง เรามีคณะทำงานชุดย่อย ที่มีความยินดีแก้ไขทุกจุด ทุกอย่างที่ไม่เป็นที่พอใจของประชาชนทุกอย่าง
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้จะศึกษาดูแลภาพรวมด้านสังคม เน้นความเป็นประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม ความเสมอภาคเท่าเทียม ที่ยังเป็นปัญหาหลัก แม้จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ แต่เรายังไม่เป็นประชาธิปไตยเท่าที่ควรจะเป็น เพราะผลจากการยึดอำนาจการปกครองประเทศ มีรัฐบาลที่ต่อเนื่องจากการยึดอำนาจ เลือกนายกรัฐมนตรีจากคนที่ไม่ได้มาเป็น ส.ส. หรือไม่เป็นสมาชิกพรรค การมี ส.ว. ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี แสดงถึงการไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นการนำประเทศนี้ไปสู่ธนาธิปไตย หรือการใช้เงินเป็นปัจจัยสำคัญในทางการเมือง
ส่วนคณะกรรมการชุดนี้จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่นั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยติดปัญหาสำคัญคือ สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ทำประชามติให้มีการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แล้วแต่วุฒิสภาไม่เอาด้วย ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล อาจพิจารณาให้คณะรัฐมนตรีมีมติ ครม. เพื่อขอทำประชามติได้
ทั้งนี้นายภูมิธรรม กล่าวว่า การรัฐประหารในปี49 ถือเป็นต้นตอแห่งการทำลายล้างโครงสร้างของระบอบประชาธิปไตยมาจนถึงทุกวันนี้ รวมไปถึงการเข้ามาบริหารแบบแฝงรูป หรือระบอบประยุทธ์ได้ทำลายความงดงามของระบอบประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพของประชาชน การมีคณะทำงานต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยเพื่อจะบูรณาการงานด้านต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกด้าน ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความพยายามนำหลักความเสมอภาค เป็นเครื่องมือหลัก และจะขยายความไปในด้านอื่น ทั้งเศรษฐกิจและสังคม หลักความเสมอภาคในประชาธิปไตย ภายใต้หลักคิด 5 ด้าน คือความเสมอภาคทางการเมือง, ความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ, ความเสมอภาคทางสังคม, ความเสมอภาคทางกฏหมาย และความเสมอภาคทางโอกาส
นี่คือการเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อไทยที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ หลายเรื่องที่เราเรียกร้องให้ประชาชนเลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาลได้ ส.ส.ในสภา 310 เสียงขึ้นไป ให้เราชนะเด็ดขาด ได้เสียงข้างมากโดยไม่มีข้อสงสัย เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียว หรืออย่างน้อยที่สุดร่วมมือกับฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ หากเราได้เสียงไม่ถึง 310 จะสู้ ส.ว.250 คนไม่ได้ และมีโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะกลับมาเหมือนเดิม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews