“ธนาธร” มองเงินดิจิทัล 1หมื่น แก้ไขได้แค่ระยะสั้น ก้าวไกลผลักดันรัฐสวัสดิการแผนระยะยาว มองตรงไปตรงมา “ปิยบุตร” โพสต์ไม่เชื่อ เพื่อไทย แก้รัฐประหารได้ บอกถ้าแก้ได้คงไม่มีอนาคตใหม่-ก้าวไกล
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้คนไทย ว่า ประเทศไทยตอนนี้คนไทยอ่อนแอมากไม่มีทางที่จะสร้างประเทศที่เข้มแข็งได้หากคนไทยยังอ่อนแอแบบนี้ ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา คนไทยมีเงินเก็บลดลง หนี้สินครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น
เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างประเทศที่เข้มแข็งจากคนที่อ่อนแอ พรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าในระยะสั้นมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างระบบรัฐสวัสดิการดูแลคนตั้งแต่เกิดจนตายให้ได้ เพื่อทำให้คนมีความมั่นคงในชีวิต คนที่ไม่มีความมั่นคงในชีวิต มองชีวิตกันเป็นวันเป็นสัปดาห์ สัปดาห์หน้าจะกินอะไร เดือนหน้าจะกินอะไร วางแผนชีวิตไม่ได้
ถ้าเราสร้างรัฐสวัสดิการจะดูแลคนได้ เขาจะวางแผนเป็นเดือนได้ เดือนนี้ต้องผ่อนรถให้เสร็จก่อน ปีหน้าค่อยเริ่มซ่อมบ้าน ซี่งประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ จึงขอโอกาสพรรคก้าวไกลขับเคลื่อนสังคมไทยให้ไปข้างหน้า
ส่วนเงินดิจิทัล 10,000 บาทสามารถ กระตุ้นเศรษฐกิจไปถึง 6 เดือนได้หรือไม่ นายธนาธร ระบุว่า คงต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าทางทีมนโยบายพรรคคิดเห็นอย่างไร ส่วนตัวอยากเห็นรูปแบบสวัสดิการที่ยั่งยืนมากกว่านี้ ทำให้ประชาชนมั่นคงได้ความสำคัญคือต้องมีความต่อเนื่องและชัดเจน จะสามารถทำให้คนออกแบบชีวิตได้
ส่วนหากมีโอกาสร่วมรัฐบาลกันพรรคก้าวไกลจะนำข้อเสนอรัฐสวัสดิการต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนาธร ระบุว่า แน่นอน ตนคิดว่าการร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยคงต้องมีการปรับหลายอย่าง นโยบายหลายอย่างที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเป็นนโยบายที่ดีพรรคก้าวไกลพร้อมสนับสนุน
ขณะเดียวกันก็เชื่อว่ามีนโยบายของพรรคก้าวไกลหลายตัวที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะหยิบยกนโยบายของพรรคก้าวไกลไปใช้เช่นกัน ดังนั้นหากหลังเลือกตั้งแล้วคงมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันเพื่อดูว่าหากตัวรัฐบาลแล้วจะพาสังคมไทยไปข้างหน้าอย่างไร
เมื่อถามว่ารายละเอียดของนโยบายดังกล่าว ประชาชนสามารถใช้เงินได้ไม่เกินรัศมี 4 กิโลเมตร เพื่อดึงคนกลับบ้าน จะชนกับนโยบายของพรรคก้าวไกลในการสร้างอุตสาหกรรมเพื่อดึงคนกลับบ้านเหมือนกันหรือไม่ นายธนาธร ระบุว่า เป็นคนละอย่างกันนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นการเสนอในระยะสั้น แต่นโยบายการสร้างอุตสาหกรรมของพรรคก้าวไกลคือการสร้างงานในระยะยาว สิ่งที่น่ากลัวสำหรับเศรษฐกิจไทยไม่ใช่การเติบโตทางเศรษฐกิจระยะสั้น
การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นต่ำกว่าเพื่อนบ้านอยู่แล้ว เราวิ่งช้ากว่าเพื่อนบ้าน แต่สิ่งที่อันตรายมากกว่าคือขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ประเทศไทยจะแข่งกับโลกาภิวัตน์อย่างไรจะส่งออกอย่างไร นี่คือโจทย์ใหญ่ เพราะส่งออกไม่ได้แข่งขันไม่ได้คนไม่มีงานทำ ดังนั้นจะพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าได้พรรคก้าวไกลเน้นที่วิทยาศาสตร์ เน้นที่เทคโนโลยีจำเป็นต้องสร้างเทคโนโลยีในประเทศไทยให้ได้
เมื่อถามถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะทำนโยบายหยุดรัฐประหารสำเร็จ นายธนาธร กล่าวว่า ก็ตรงไปตรงมา หากมีพรรคการเมืองที่กล้าต่อสู้กับการทำรัฐประหารอย่างจริงจัง ถ้ามีพรรคการเมืองที่ต่อสู้กับทหารที่เข้ามาการเมืองอย่างจริงจัง ก็คงไม่มีพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกลในวันนี้
ซึ่งกรณีนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของนายปิยะบุตร ที่ไม่มีความเชื่อมั่น ทั้งนี้หากมีพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในประชาธิปไตยและพร้อมต่อสู้กับพลังที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างตรงไปตรงมาก็ไม่มีพรรคอนาคตใหม่ ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหากพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีโอกาสจับมือกันเป็นรัฐบาลจะเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยในการมีทั้งพลังและประสบการณ์ ในการนำไปสู่ทิศทางที่เป็นประชาธิปไตย
ส่วนนโยบายเกี่ยวกับการรัฐประหารพรรคก้าวไกลชัดเจนกว่าพรรคเพื่อไทย นายธนาธร ระบุว่า ให้ประชาชนตัดสินเองดีกว่า ในเรื่องการแก้ไข ม.112 อย่างมากพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้เสนอให้ยกเลิกแต่เป็นการแก้ไข ซึ่งหากมีโอกาสร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยก็คงจะคุยกับฝ่ายบริหาร เป็นเรื่องฝ่ายสภา และมองว่าจะไม่เป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews