Home
|
ข่าว

“ณัฐวุฒิ” แถลงเพื่อไทยลุยปราศรัยน่าน-ลำปาง มุ่งแลนด์สไลด์

Featured Image
“ณัฐวุฒิ” แถลงเพื่อไทยลุยปราศรัย 2 จังหวัดภาคเหนือ น่าน-ลำปาง มุ่งแลนด์สไลด์ ก่อนปักหมุดปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพฯ 12 พ.ค.มั่นใจได้เห็น 3 แคนดิเดตนายกฯขึ้นเวทีพร้อมกันอีกครั้ง

 

 

 

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงข่าวการลงพื้นที่ปราศรัยในจังหวัดน่าน และลำปาง ระหว่างวันที่ 8-9 เม.ย.66 โดยกล่าวว่า จังหวัดน่านและลำปาง จะเป็นครั้งแรกที่ทีมเพื่อไทยชุดใหญ่ไปปราศรัยในภูมิภาคหลังมีการจับฉลากหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตและบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย การประกาศชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ครบ 3 คน รวมถึงการประกาศตัวเลขในนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี เกิดการตื่นตัวที่จะสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยให้ได้รับเลือกตั้งเข้าไปผลักดันนโยบายให้เป็นจริง

 

 

การลงพื้นที่จ.น่านและลำปางในครั้งนี้ นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่จะร่วมปราศรัยผ่านระบบออนไลน์ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละจังหวัด

 

 

เริ่มจากวันที่ 8 เม.ย.66 สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง อ.เมือง จ.น่าน ในเวลา 15:00 น. จากนั้นจะไปสมทบคาราวานรถแห่ของผู้สมัครใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เดินทางไปในทุกจังหวัด โดยมีพิธีเปิดกิจกรรมรถแห่ “กึ๊ดใหญ่ทำเป็น” 8 จังหวัดภาคเหนือ ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง จากนั้นจะเริ่มกิจกรรมรถแห่รอบเมือง ผ่านตลาดเทวราช ชุมชน ย่านธุรกิจ ไปหยุดปราศรัยบนรถแห่หน้าวัดภูมินทร์ (ถนนคนเดิน) ก่อนที่ในเวลา 18.00 น. จะมีเวทีปราศรัยใหญ่ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตน่าน อ.เมือง จ.น่าน จากนั้นไปถนนคนเดินเพื่อพบปะประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย

 

ส่วนในวันอาทิตย์ที่ 9 เม.ย.56 ออกเดินทางไปยัง อ.วังชิ้น จ.แพร่ เพื่อพบปะเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และชาวนาในพื้นที่ในเวลา 11:00 น. ก่อนที่ในเวลา 13:00 น. จะเดินทางไปพบปะประชาชน ในอ.แม่ทะ จ.ลำปาง และในเวลา 16.30 น.

 

 

จะมีการร่วมขบวนปราศรัยบนรถแห่ ณ ห้าแยกหอนาฬิกา อ.เมือง จ.ลำปาง ส่วนในเวลา 18:00 น.จะมีเวทีปราศรัยใหญ่ ณ ตลาดนัดคลองถมห้างฉัตร อ.เมือง จ.ลำปาง

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า จากนี้ทีมปราศรัยของพรรคเพื่อไทย ทั้งเวทีใหญ่ เวทีระดับเขต เวทีย่อย ปูพรมลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเวทีใหญ่ที่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมด้วยได้วางคิวถึงสิ้นเดือนเม.ย.66 แล้ว ส่วนในเดือนพ.ค.จะมีการปราศรัยในทุกวันทุกภูมิภาค เพื่อเน้นย้ำนโยบายและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ตัวแคนดิเดตทั้ง 3 คนก็จะทำงานร่วมกันเป็นทีม การไปร่วมเวทีใดขึ้นกับสถานการณ์และช่วงเวลาที่เหมาะสม ลงตัว ส่วนเวทีปราศรัยปิดท้าย คาดว่าหลายพรรคการเมืองจะปักหมุดในช่วงเย็น วันที่ 12 พ.ค.65 พรรคเพื่อไทยก็เช่นกัน ซึ่งเวทีนี้จะมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนปรากฎตัวบนเวทีร่วมกันอีกครั้ง เชื่อว่าเวลานั้นน.ส.แพทองธาร จะผ่านการคลอดบุตรและพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าตัวยืนยันที่จะเข้าร่วมเวทีนี้อย่างแน่นอน

 

 

ทั้งนี้ ในช่วงนี้มีสถานการณ์ที่ทำให้เกิดคำถามถึงนโยบายพรรคเพื่อไทยว่าทำได้จริงหรือไม่ ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะจับมือกับใคร และมีสัญญาณทำให้การเลือกตั้งสะดุด หรือไม่ตอบสนองต่อประชาชน ตอนนี้ตนคิดว่าคำตอบใน 2 ประเด็นแรกชัดเจนแล้ว ส่วนสถานการณ์พิเศษ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีการหยุดยั้ง ขัดขวางการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชน ส่วนคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจเป็นวิธีการพยายามเอาของเก่ามาขาย เพราะนโยบายขายไม่ได้ จึงพยายามให้คนนึกถึงความสงบจบที่ลุงตู่ แต่ประชาชนต้องการจบลุงตู่มากกว่า ขอให้อำนาจนอกระบบยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ถอยพ้นไปจากวิถีทางในระบบรัฐสภา

 

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับการประกาศนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ย่อมเกิดขึ้นได้ ประชาชนก็สามารถใช้วิจารณญาณได้ แต่ท่วงทำนองขอให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ได้ร่วมงาน ร่วมแนวทางประชาธิปไตยด้วยกันมา เพื่อทำให้การทำงานภาพรวมในสนามเลือกตั้งสวยงาม การแก้รัฐธรรมนูญเป็นแนวทางที่นำเสนอโดยนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และเป็นแนวทางของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ที่ต้องแก้เต็มที่ต้องให้มีประชาชนเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)มีกระบวนการทำประชามติทั้งก่อนและหลังการยกร่างการมี สสร.ส่วนเนื้อหาสาระต้องเป็นวาระของ สสร.ด้วย

 

 

ส่วนพรรคการเมืองมีสิทธิ์เสนอแนวทางประกอบการพิจารณาได้ แต่ไม่ใช่การไปแทรกแซงกดดัน การเห็นด้วยหรือไม่ต้องเคารพต่อความเห็นของ สสร. ส่วนการต่อสู้ทางการเมืองคงไม่มีใครมีมาตรวัดว่าใครทำอะไรมามากกว่าใคร เราเคารพทั้งความเหมือนและความต่างของเพื่อนร่วมทางจะดีกว่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube