“ธรรมนัส-วิรัช” ลุยช่วยผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม หาเสียงชูนโยบายบัตรประชารัฐ-เบี้ยผู้สูงอายุ ลั่น พร้อมก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเปราะบาง
พรรคพลังประชารัฐ จัดเวทีปราศรัย นำโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ ร่วมปราศรัยนโยบายพรรค พร้อมผู้สมัคร
ส.ส.นครปฐมประกอบด้วย เขต 1 นายมารุต บุญมี เบอร์ 8,เขต 2. นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ เบอร์ 9,เขต 3. นายศิรวริศ สวนแก้ว เบอร์ 6,เขต 4. นายณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม เบอร์ 8,เขต
5. นายจักรพงษ์ ทิมมณี เบอร์5 และเขต 6. นายมนตรี บุญประคอง เบอร์ 5
นายวิรัช กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า พรรคพลังประชารัฐ อยากได้ ส.ส.ของ จ.นครปฐม ที่จะไปอยู่เป็นรัฐบาลด้วยกัน เมื่อเลือกตั้งปี 62 ที่ผ่านมา ผู้แทนชาวนครปฐมมีแต่ฝ่ายค้านมากกว่ารัฐบาล
วันนี้ไม่โกรธเลยที่หลายคนย้ายไปอยู่พรรคการเมืองต่างๆ แต่ต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล เพราะฉะนั้นครั้งนี้ ขอให้ทุกคนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 ถ้าถามว่าทำไมต้องเลือก ก็เพราะว่านโยบาย
ของเราในครั้งนี้ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่น บัตรประชารัฐครั้งที่แล้วให้ประชาชน 300 บาท แต่ครั้งนี้จะเพิ่มเป็น 700 บาท ซึ่งโครงการบัตรประชารัฐ ถูกตั้งคำถามอย่างมาก เมื่อตอนเปิดตัวออกมา
ว่าจะใช้ได้นานหรือไม่ แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่า เราสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาได้ถึง 4 ปี
“ถ้าพี่น้องติดใจ ถูกใจบัตรประชารัฐ หลายคนบอกว่าขาดบัตรนี่ไม่ได้แล้ว ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาได้อยู่ได้กินก็บัตรนี้ วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า 300 บาทไม่พอ
ขอเพิ่มให้เป็น 700 บาท ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมมีผู้ได้รับสิทธิบัตรประชารัฐ 300,000 คน ถ้าช่วยกันเลือกภายใน 6 เขต พรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.ยกจังหวัด และจะเข้ามาสานต่อโครงการเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี”
นอกจากนั้น พรรคพลังประชารัฐยังมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ โดยการเพิ่มเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป
เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน หรือเรียกว่าเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8 ซึ่งเราเห็นความสำคัญ
และมีความจำเป็นที่จะต้องผลักดันนโยบายเพิ่มเติมเพื่อดูแลสวัสดิการผู้สูงอายุ ที่เป็นบุคคลที่มีคุณค่า และเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ยึดหลักสำคัญก็คือ เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะคนไทยเราพูดภาษาเดียวกัน มีศิลปะและวัฒนธรรมเหมือนกัน
เรามีเสาหลักของบ้านของเมืองที่อยู่คู่กับประเทศไทยมานาน นั่นคือ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เราจะเชิญชวนลูกลานของเรามาเดินด้วยกัน สิ่งไหนที่มันไม่ถูกต้อง
ไม่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนเราจะนำไปพูดกันในสภาผู้แทนราษฎร กฎหมายที่ล้าหลัง ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เราก็จะไปแก้ไขให้ดีขึ้น
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากมาบอกชาวนครปฐมว่า หลายอาชีพที่กำลังลำบากอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นชาวสวนกล้วยไม้ เลี้ยงกุ้ง ทำนา เลี้ยงสุกร หลายอย่างมีปัญหา
ราคากุ้งถูก แต่อาหารที่เลี้ยงมีราคาแพง ข้าวถูกปุ๋ยแพง ค่าครองชีพแพง วันนี้อะไรที่เป็นของกลุ่มทุนแพงหมด แต่อะไรที่เป็นของพี่น้องประชาชนถูกหมด แล้วประชาชนจะอยู่ได้อย่างไร
พรรคพลังประชารัฐจึงมีโจทย์ว่าเราจะบริหารบ้านเมืองโดยการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชน
“ในช่วง4ปีที่ผ่านมาการบริหารบ้านเมือง ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยู่มาได้ก็เพราะคนเดียว ที่ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากก็คือ
อยู่ได้เพราะ พล.อ.ประวิตร ท่านดูแลสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกพรรค แม้แต่ก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ที่มีความเดือดร้อนในเรื่องของประชาชน ท่านสั่งการองค์กร กระทรวงต่าง ๆ
ให้เข้าไปดูและแก้ปัญหาให้ประชาชน ในยามที่สถานการณ์เป็นแบบนี้ พล.อ.ประวิตร เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด”
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ทิ้งท้ายว่า ในวันที่ 14 พ.ค.ตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น.ขอชาวนครปฐมเข้าคูหากาผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐทั้ง 6 เขต และขอให้กาเบอร์ 37 ให้กับพรรคพลังประชารัฐ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews