“เศรษฐา” นำผู้สมัคร ส.ส.บ้านโป่ง เดินหาเสียง ย้ำ 8 ปี ปชช.ทุกข์มากพอแล้ว เพื่อไทย ขอเข้ามาดูแล ลั่น อย่าให้ใครมาด้อยค่านโยบายพท. มั่นใจ คิดมาดีแล้ว
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมกับนายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย, น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการ และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย, น.ส.ขัติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยน.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 4 เดินตลาดป่านโป่ง
เพื่อพบปะและขอเสียงประชาชนบ้านโป่ง โดยแม่ค้าได้แซวนายเศรษฐาว่า หล่ออะไรอย่างนี้ ตัวจริงหล่อ หล่อว่าในทวีดี แพ้ความหล่อ ทำให้นายเศรษฐายิ้มเขิน ขณะที่บางคนเดินเข้ามาจับมือ แล้วบอกว่า ขอจับมือคนรวยหน่อย อยากรวยบ้าง ซึ่งนายเศรษฐาได้ฝากเลือกส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และเลือกพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 ด้วย แล้วคนไทยทุกคนจะรวยขึ้น นอกจากนี้ช่วงที่เดินตลาดอยู่นั้น แม่ค้าขายข้าวเหนียวมะม่วงได้เรียกนายเศรษฐาให้เข้าไปชิมข้าวมะม่วง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เข้าไปแวะชิม พร้อมบอกว่า อร่อยมากๆ ข้าวเหนียวมะม่วงถือเป็นซอฟต์ พาวเวอร์หนึ่งของไทยเราด้วย
สำหรับบรรยากาศการเดินตลาดบ้านโป่ง นายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทยได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก หลายคนเข้ามาขอถ่ายภาพ มอบดอกไม้ และทักทายให้กำลังใจ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อนายเศรษฐาเดินผ่านจุดใด พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดบ้านโป่งจะพูดว่า ใช่พรรคที่จะเติมเงินในกระเป๋า 10,000 หรือไม่
จากนั้นเวลา 12.40 น. นายเศรษฐา และคณะ เดินทางมาพบประชาชนบ้านโป่งประมาณ 2,000 คน ที่หอประชุม อาคารอารีน่า อำเภอบ้านโป่ง โดยนายเศรษฐาได้สรงน้ำพระ ก่อนจะรดน้ำขอพรผู้สูงอายุเนื่องในวันผู้สูงอายุ และเทศกาลสงกรานต์
โดยนายเศรษฐา ระบุว่า ช่วงสงกรานต์อยากเดินทางไปพบประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้ดีใจมาก ตอนแรกทราบว่าประชาชนจะมา 700-800 คน แต่พอมาจริงมากว่า 2,000 คน ซึ่งตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนทุกข์ทรมาน ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมามีเวลาถึง 8 ปี แต่กลับทำให้เราต้องทนอยู่ในสถานการณ์แบบปัจจุบันที่รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม pm2.5 วิกฤติ และประชาชนไม่มีสิทธิเลือกทำอาชีพที่ตนอยากทำ
ดังนั้นพรรคเพื่อไทย เราสนับสนุนให้ประชาชนมีสิทธิเลือกประกอบอาชีพ การเป็นทหารก็เช่นกัน เราต้องการให้มีสิทธิเลือก และสมัครใจเกณฑ์ทหาร นอกจากนี้สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนที่เกษียณอายุแล้วเก็บเงินได้ไม่พอเลี้ยงดูตนเอง พรรคเพื่อไทยจะสนันสนุนตรงนี้ และจะต้องส่งเสริมให้ลูกหลานไทยมีศักยภาพในการเลี้ยงดูตัวเอง และครอบครัวด้วย ต่อมาคือเรื่องเศรษฐกิจ GDP ของเราเติบโตเพียง 2.3% ตำกว่าค่า pm2.5 เสียอีก ซึ่งนายกฯคนปัจจุบัน เกือบเรียกได้เต็มปากว่าไม่เคยเดินทางไปเปิดตลาดสินค้าให้คนไทยเลย ไม่รู้ว่าเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือไม่สนใจเลย แต่ถ้าได้นายกฯมาจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าคนใด เราตกลงกันแล้วว่าจะออกไปเปิดตลาดสินค้าให้ประชาชน
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีคนกล่าวถึงอย่างมากนั้น เรายืนยันที่จะเติมเงินใส่กระเป๋าให้ประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ท่านอย่าให้ใครมาด้อยค่านโยบายนี้ เพราะเราคิดทุกอย่างมาอย่างรอบคอบแล้วทั้งหมด ซึ่งถ้าเปรียบกับนโยบายบางพรรคที่จ่ายให้ท่าน 500-700 บาทต่อเดือน แบบนั้นจะเอาไปทำอะไรได้
เหมือนการหยอดน้ำข้าวต้มไปวันๆ แต่ที่พรรคเพื่อไทยให้ เราให้ประชาชนเอาไปตั้งตัวได้ และหากครอบครัวใดที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน เราเติมให้จนถึง ที่สำคัญเรามีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเราจะต่อยอดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่นี้ บัตรประชาชนใบเดียวก็รักษาได้เลย แต่นโยบายเหล่านี้เราจะทำได้ก็ต่อเมื่อพี่น้องเลือกเราทั้งคน ทั้งพรรคถ้าเบอร์พรรคก็เบอร์ 29
แต่ถ้าที่บ้านโป่งต้องเลือกเบอร์ 7 น.ส.ชะวรลัทธิ์ เป็นคนที่อยู่กับพรรคมาเสมอ เข้าใจนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี ดังนั้น เราต้องช่วยกันผลักดันน.ส.ชะวรลัทธิ์ แล้วเราจะดูแลประชาชนอย่างดี และเราทุกคนต้องออกไปใช้สิทธิเพื่อแสดงให้คนทั้งประเทศทราบว่า เราพอแล้วกับ 8 ปีที่ผ่านมา จากนี้เป็นเวลาของเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews