“สกลธี” นำผู้สมัคร พปชร. หาเสียงสะพานหัน ชู”กองทุนประชารัฐ 3 แสนล้าน” ดูแลย่านเศรษฐกิจ พร้อมลดค่าไฟหากหวนเป็นรัฐบาลอีก ขณะดีใจโพลชู “ประวิตร” ข้ามขัดแย้ง โอดคนพังป้าย
นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ตลาดสำเพ็ง และสะพานหัน เพื่อช่วย นายสฤษดิ์ ไพรทอง ผู้สมัคร เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 11 หาเสียง พร้อมพบปะพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงติดตามประเด็นเรื่องของค่าครองชีพ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้าขาย ทั้งนี้ บรรยากาศตลอดการเดินหาเสียง ได้ขอให้เลือกทั้งคน ทั้งพรรคเบอร์ 37 โดยมีพ่อค้าแม่ค้าและแฟนคลับ ต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดีที่ดีและขอถ่ายรูป
โดยนายสกลธี กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้สั่งให้พรรคคิดนโยบายด้านปากท้อง ลดค่าครองชีพ ออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการลดราคาน้ำมันเบนซิน 18 บาท ลดดีเซล 6 บาท หรือการลดราคาแก๊สเหลือถังละ 250 บาท ซึ่งสามารถทำทันทีที่เป็นรัฐบาล และล่าสุดพรรคได้ออกนโยบายลดค่าไฟฟ้า โดยจะปรับโครงสร้างราคาที่มีการคิดเงินซ้ำซ้อนอยู่เยอะ ซึ่งจะทำให้สามารถลดค่าไฟฟ้าลงเกือบ 50% เหลือเพียงหน่วยละ 2.50 บาทเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็จะช่วยให้ทุกคนมีเงินเหลือไปใช้จ่ายอย่างอื่นเพิ่มขึ้น และหากพรรคพลังประชารัฐได้กลับมาเป็นรัฐบาลก็จะเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
สำหรับการลงพื้นที่ วันนี้ ย่านสะพานหัน ซึ่งหลังโควิดมานี้กลายเป็นย่านเศรษฐกิจเชื่อมต่อเขตพระนครและสัมพันธวงศ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่ยังต้องการการสนับสนุนจากรัฐทั้งในด้านงบประมาณและการดูแลอื่นๆ แต่จะหวังพึ่งงบประมาณของ กทม.อย่างเดียวก็คงไม่พอ ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐ จึงจะตั้งกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท ขึ้นมา โดยกรุงเทพฯ น่าจะได้เงินมาช่วยพัฒนาพื้นที่หลายหมื่นล้านบาท ที่จะช่วยดูแลและสร้างแหล่งท่องเที่ยวตามย่านต่างๆ หรือใช้ในการสร้างระบบขนส่งสาธารณะ และสาธารณูปโภคที่จำเป็นเพิ่มเติมได้
ส่วนแผนการหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง นายสกลธี ย้ำว่า ยังคงลงพื้นที่ในทุกวันเพื่อช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครรวมถึงเวทีปราศรัยย่อยตามโซนต่างๆ และปิดท้ายการปราศรัยใหญ่ ที่สนามไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้โดยพล.อ.ประวิตรและแกนนำคนสำคัญจะมาร่วมด้วย
ขณะเดียวกัน นายสกลธี ยังกล่าวถึงการทำลายป้ายหาเสียงผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่ามีเกิดขึ้นจริงและเยอะมาก ได้ให้ทีมงานลงไปสำรวจ บางพื้นที่ไม่ได้มีการทำลาย แต่เป็นการถอดป้ายทิ้งไว้แล้วเอาไปพรรคอื่นมาติดแทน หรือมีการปิดทับป้ายพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้หากมีการทำลายป้ายที่รุนแรงมากก็จะเก็บข้อมูลหลักฐานเพื่อแจ้งความต่อไป
ส่วนโพลสำรวจที่ยกให้พล.อ.ประวิตร เป็นอันดับ 1 ในการก้าวข้ามความขัดแย้ง นั่นแสดงให้เห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ใครจะร่วมกับใครก็ได้ ไม่ใช่ว่าการหาเสียงต้องหาเสียงด้วยความเกลียดชัง ซึ่งพล.อ.ประวิตร มองถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ เลือกด้วยนโยบายและเลือกคนที่อยากให้เข้ามาบริหารจริง พร้อมยอมรับว่า พรรคพลังประชารัฐก็ทำโพลของตัวเอง ส่วนโพลจากสำนักอื่น ก็มีพรรคพลังประชารัฐ และพล.อ.ประวิตร ติดลำดับ 1-6 แต่ก็ไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นจริง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews