Home
|
ข่าว

เพื่อไทย เปิดนโยบายการศึกษา-พัฒนาศักยภาพมนุษย์

Featured Image
เพื่อไทย เปิดนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ฉะ “บิ๊กตู่” สร้างความเหลื่อมล้ำ แนะทาง”ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส”

 

 

 

พรรคเพื่อไทย นำโดย ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ พรรคเพื่อไทย , ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ

 

 

คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้านอุดมศึกษา พรรคเพื่อไทย , นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้าน EdTech พรรคเพื่อไทย , รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวานิช คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้านอาชีวศึกษา พรรคเพื่อไทย ,ดร.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตลาดกระบัง (ยกเว้นแขวงลำปลาทิว) เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้านกิจกรรมพัฒนาเยาวชน พรรคเพื่อไทย แถลงเปิดตัว คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ พรรคเพื่อไทย

 

 

ดร.ณหทัย ในฐานะประธานคณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ กล่าวว่า ปัญหาการศึกษาในหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สร้างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาเพราะความยากจนในระดับรุนแรง มีนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษรวมจํานวน 1.8 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 20 จากจํานวนนักเรียนในระดับเดียวกัน 9 ล้านคน เมื่อยากจนจึงหลุดจากการศึกษา และเพราะไม่มีการศึกษาจึงทำให้คนตกสู่หลุมความยากจนอีก การพัฒนาศักยภาพคนเท่านั้นจะเป็นทางออก

 

ด้วยเหตุผลข้างต้น พรรคเพื่อไทยจึงออกแบบนโยบายเพื่อการศึกษา ที่จะทำทั้งในระบบการศึกษา และ ออกแบบแพลตฟอร์มใหม่ให้คนได้เรียนรู้ตลอดชีวิต โดยโครงสร้างใหญ่นั้น นโยบายจะถูกคิดจากปรัชญาของพรรค นั่นคือนโยบายการศึกษาจะต้อง “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ให้กับผู้เรียน ผ่าน 6 นโยบายดังนี้

 

 

1.นโยบาย One Tablet per Child with free internet เพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำของการเข้าไม่ถึงการศึกษา รวมทั้งยังเป็นปลดภาระของพ่อแม่ผู้ปกครอง เด็กทุกคนต้องได้เรียน

 

2.นโยบายสร้างระบบการเรียนรู้ดิจิทัลแบบครบวงจร “แพลตฟอร์ม Learn to Earn” เพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้

 

 

2.1 ลดความเหลื่อมล้ำ ใครอยากเรียนอะไรต้องได้เรียน เนื้อหาหลากหลายทันสมัย เรียนสนุก

 

2.2ขจัดปัญหาคนตกงานจะต้องหมดไป เพราะงานจะวิ่งเข้าผู้เรียน ผู้เรียนเห็นงานเห็นอาชีพเห็นรายได้ตอบแทนตั้งแต่ก่อนเรียน ระบบยังออกแบบช่วยให้มีงานทำเร็วที่สุด เพราะบางงานผู้จ้างงานไม่สนวุฒิ สนแค่เราทำงานได้หรือไม่มากกว่า

 

2.3ระบบยังมีตัวช่วยทดสอบสมรรถนะขอผู้เรียน เพื่อเข้ากับเรื่องที่เรียนและหางานที่เหมาะสมกับสมรรถนะ เราจะไม่เอาลิงไปว่ายน้ำเอาปลามาปีนต้นไม้ ยิ่งค้นหาตัวเองเจอไว้เท่าไร ยิ่งฉายแววศักยภาพได้ไวขึ้น

 

2.4ออกแบบการเรียนเองได้ ตั้งแต่เวลาเรียน ถ้าขยันก็สามารถจบไว แข่งกับตัวเอง หรือ ถ้าเรียนไปทำงานไปก็ค่อยๆสะสมหน่วยกิต ไปเรื่อยๆได้ เทียบโอน หรือย้ายสาขาวิชาเรียนได้หากไม่ชอบ หมดยุคของเรียนจนจบแล้วเพิ่งค้นพบตัวเองว่าไม่ชอบแต่ต้องทนเรียน

 

2.5สร้างรายได้ใหม่ รายได้เสริม หรือเปลี่ยนอาชีพ ถ้ารู้สึกเบื่องานที่ทำอยู่ หรือเงินเดือนไม่เพียงพอ ผู้เรียนสามารถเข้ามาเรียนเพิ่มเพื่อหางานใหม่ หรือรับงานเสริมหลังเรียนเสร็จได้เลย

 

3.นโยบายจบปริญญาตรี อายุ 18 ปี ขจัดเนื้อหาการเรียนที่ทับซ้อนและไม่ทันสมัย โดยปรับระบบการเรียนเป็น 5-5-3 แทนระบบ 6-6-4 ลดเวลาเรียนในสิ่งที่ไม่จำเป็น ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนเข้าสู่การทำงานเร็วขึ้น นโยบายนี้ลดรายได้เพิ่มรายจ่าย ในช่วง 4 ปี รายได้ที่สร้าง 4 ปี รายจ่ายด้านการศึกษาที่ลดลง 4 ปี เปรียบเสมือนได้เงิน 1 ล้านบาท ต่อคน ให้ช่วยกันสร้างรายได้ปลดหนี้ คืนความสุขความสบายใจสู่ผู้ปกครอง

 

 

4.นโยบายเรียนอาชีวะฟรีมีอยู่จริง ตั้งแต่ ปวช.-ปวส. เพราะเราเห็นความสำคัญของกลุ่มอาชีวะ น้องๆกลุ่มนี้เป็นแกนหลักในการผลักดันด้านอุตสาหกรรมของประเทศ เราเห็นค่าและอยากมอบโอกาส ตอบแทนเด็กกลุ่มนี้ด้วยการเรียนฟรี

 

 

5.นโยบาย 1 อำเภอ 1 ทุน ที่จะเป็นการรื้อฟื้นนโยบายในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย เพื่อค้นหาเพชรในแต่ละอำเภอมาเจียรนัย ให้เด็กทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาในต่างประเทศเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเกิดพัฒนาประเทศ

 

 

6.นโยบายโรงเรียน 2 ภาษาทุกท้องถิ่น เพื่อยกระดับการเรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษา Coding ตั้งแต่ ป.1 เพื่อพัฒนาให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนไปแล้ว

 

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะปรับปรุงกฎหมายและยกระดับกระทรวงศึกษาธิการให้มีประสิทธิภาพทั้งระบบมากยิ่งขึ้น โดยยึดนักเรียนและชุมชนเป็นศูนย์กลาง อาทิ

 

 

1.ทำหลักสูตรฐานสมรรถนะให้เกิดขึ้นจริง ลดเวลาเรียน และจัดตั้ง ธนาคารหน่วยกิต (Academic Credit Banking) ที่บันทึกและเชื่อมการศึกษาและการเรียนรู้ทุกระบบและทุกระดับ รวมทั้งประสบการณ์ เพิ่มทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และทักษะดิจิทัล

 

 

2.กระจายอำนาจให้โรงเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาให้สามารถบริหารจัดการงบประมาณและอัตรากำลังที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน และขจัดการละเมิดสิทธิผู้เรียน

 

 

3.ผลักดัน พ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ และ พ.ร.บ.การเรียนรู้ตลอดชีวิต

 

 

4.ลดภาระงานเอกสารที่ไม่จำเป็นและยกระดับความสำคัญของครู ดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการให้แก่ครู เพิ่มสมรรถนะครูให้เป็น Coach

 

 

รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวานิช คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้านอาชีวศึกษา พรรคเพื่อไทย

 

 

ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ด้านอุดมศึกษา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะเข้าไปแก้ปัญหาการศึกษาไทยและแก้ไขเพื่ออนาคตและความหลากหลาย ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่

 

 

1.ปฏิรูประบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ลดบทบาท TCAS และจะเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีความหลากหลาย เพราะข้อสอบเป้ฯแบบ Standardized tests ยังไม่มีการเปิดรับความหลากหลายในเชิงวัฒนธรรม โดย

 

1.1 โดย TCAS จะต้องมีความชัดเจนในการเฉลายและอธิบายข้อสอบ

 

1.2 ประกาศผลสอบรอบ Portfolio ก่อน เพื่อลดความทับซ้อนในการสอบ TCAS ลง และลดค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบให้กับเด็ก

 

1.3 ทลายกำแพงการศึกษาผ่าน Leran to earn

 

2. แก้ปัญหาด้านสุขภาพจิตให้กับนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา

 

3.นโยบายฟรีวีซ่า และยกระดับ Passport ไทยในการไปศึกษายังต่างประเทศ โดยไม่ต้องขอวีซ่าของพรรคเพื่อไทย จะช่วยให้เด็กไทยก้าวไกลเป็นพลเมืองโลก (Global citizen) โดยปัจจุบันไทยเจรจา Work and holiday เพียง 2 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยจะมีการมองประเทศคู่สัญญาใหม่เพิ่มเติมด้วย และจะเจรจาเพิ่มจำนวนโควต้าเยาวชนในการไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube