“ชาญชัย” แย้มชื่อ “บิ๊กเนม” ถือหุ้นกว่า100 คน ลั่นเปิดไป กกต.ป่วนแน่ ทั้ง”บิ้กป้อม-ธรรมนัส” รอศาลฎีกาชี้ขาด 2 พ.ค. โวยถูกเตะตัดขา เปรียบขึ้นชกถูกมัดแขนเข้ามุม
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูก ผอ.กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่2 นครนายก ตัดสิทธิ์การลงรับสมัคร ส.ส.โดยระบุ อ้างถือครองหุ้นของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือAIS ว่า เข้าข่ายตามลักษณะต้องห้าม เปิดเผยความคืบหน้าหลังยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้วินิจฉัยเรื่องนี้ว่า ศาลได้นัดพร้อมทั้งสองฝ่ายเพื่อตรวจสอบพยานและหลักฐาน ก่อนที่จะนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 เม.ย.นี้
เพื่อชี้แจงหลักฐาน พยานต่างๆ ของทั้งสองฝ่ายต่อศาล ยืนยันว่าถือหุ้น AIS แค่200หุ้น และเคยลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเมื่อปี2562 กกต.กลางก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์ ดังนั้น ตนฟ้องศาลฎีกาก็เพื่อยืนยันสิทธิ์ว่า ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทราบว่า สาเหตุที่ ผอ.กกต.เขต2 นครนายก สั่งตัดสิทธิ์ตนออกจากการเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต2 โดยอ้างว่าขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นของAIS นั้น เพราะบริษัท AIS ไปถือหุ้นของบริษัทลูก
ที่ทำหนังสือโทรศัพท์หน้าเหลือง อีกบริษัทลูกที่ AIS ไปถือหุ้นคือบริษัทเทเลอินโฟ มีเดียส์จำกัด (มหาชน)ที่ให้บริการโฆษณาออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับตน เพราะถือหุ้นของบริษัทแม่ ส่วนบริษัทแม่จะไปถือหุ้นในบริษัทลูกอื่นๆที่แตกไลน์ออกไปกี่บริษัท ก็ไม่เกี่ยวกับตน ที่สำคัญถือแค่ 200หุ้น ไม่มีผลในการไปบริหารจัดการภายในของบริษัทแม่ และไม่ได้มีชื่อถือหุ้นในอีก2บริษัทดังกล่าว แต่ กกต.กลับเลือกตีความคลอบคลุมแบบนี้ ถามว่าตีความเกินอำนาจกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ ได้เห็นหลักฐานของ กกต.ที่ศาล ก็เห็นเป็นเรื่องแปลก ซึ่งกกต.เขต2 นครนายกเองก็ยอมรับว่า เป็นกรณีแรกที่ตีความมาตัดสิทธิ์การลงสมัคร ส.ส.ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยตีความกรณีถือหุ้นสื่อเอาไว้แล้ว แต่ กกต.กลับยืนยันการใช้อำนาจของเขาว่า ตนขาดคุณสมบัติ ขอยืนยันที่จะต่อสู้ เพราะได้เห็นหลักฐานรายชื่อของ กกต. ว่ายังมีผู้สมัคร ส.ส.ระดับบิ๊กเนม เป็นผู้ถือหุ้นที่ส่งมาด้วย เพราะมีชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) และแคนติเดตนายกฯของพรรค พปชร. รวมอยู่ด้วย อยู่ในลำดับที่ 53
อยู่ในเอกสารที่ กกต. ส่งให้ศาล แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่า ถือหุ้นอะไร เพราะตนเปิดดูหลักฐานที่ กกต.ส่งให้ศาล เห็นมีชื่อคนดังต่างๆ อีกหลายคน ตกใจว่า มีชื่อพลเอกประวิตรด้วยแล้วทำไมยังเดินหาเสียงได้อีก ทำไมไม่ถูกตัดสิทธิ์สมัครเหมือนตน เพราะถาม กกต.เขต2 นครนายก ว่าทำไมไม่ดำเนินการเหมือนที่ทำกับตน เขาตอบว่า เขาไม่ทราบ ซึ่งมีชื่อนักการเมืองทั้งหมด 130 คน คนดังๆ ทั้งนั้น ถ้าบอกชื่อมาทั้งหมดนี่ เปรียบเหมือนคำโบราณ สำเพ็งไหม้ วุ่นวายไปหมดแน่ กกต.ทำไม ทำแบบนี้ แต่ตนยังไม่ได้ดูในรายละเอียดของ กกต. ที่ส่งให้ศาลว่า ผู้ที่มีชื่อในลิสต์ทั้ง130 คนนี้ ทำผิดอะไร หรือไม่อย่างไร แต่ชื่อของตนอยู่ในลำดับที่ 17 ในรายชื่อทั้งหมดนี้ อีกชื่อที่จำแม่น เพราะเป็นคนดังคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรค พปชร.
ส่วนแนวทางการต่อสู้เรื่องนี้ ตอนนี้ก็รอศาลฎีกาไต่สวนมูลฟ้องในคดีนี้ ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ซึ่งทราบว่าศาลท่านเมตตาเร่งจะพิจารณาตัดสินชี้ขาดเรื่องนี้ให้ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ การที่ กกต.เขต2 นครนายก ตีความลักลั่นแบบนี้ ทำให้ตนรับผลกระทบมาก เพราะเท่ากับว่าไม่ได้เป็นผู้สมัครส.ส. จะหาเสียงก็ไม่ได้ ผิดกฎหมายอีก หากเปรียบว่าขึ้นเวทีมวยต่อยกัน ก็เท่ากับตนถูกมัดแขนเข้ามุมให้คู่ต่อสู้อัดตนฝ่ายเดียว ก็ต้องรอให้ศาลฎีกาตัดสินก่อน จากนั้นค่อยมาว่ากันอีกที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
