“อนุชา” ชูนโยบาย รทสช. โคล้านครอบครัว ทำได้จริง ทำสำเร็จมาแล้ว 300 ครอบครัว สร้างรายได้ 10 ปี 7 ล้านบาท ลูกหลานได้กลับไปอยู่ภูมิลำเนา ไม่ต้องไปเป็นแรงงานต่างจังหวัดอีก
นายอนุชา นาคาศัย ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุถึงการออกนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะโครงการโคล้านครอบครัว ถือเป็นการต่อยอดจากการดำเนินการมาแล้วในรัฐบาล จากแนวคิดของตนในฐานะที่ตนกำกับดูแลกองทุนหมู่บ้าน โดยโครงการดังกล่าวจะเป็นโอกาสให้คนในพื้นที่รวมถึงลูกหลานคนไทยไม่ต้องเป็นแต่แรงงานกินเงินเดือนอีกต่อไป
เนื่องจากสามารถเลี้ยงโคได้ที่บ้านเกิดได้ พร้อมยืนยันโครงการโคล้านครอบครัว ไม่ใช่โครงการตัวเล็ก แต่เป็นโครงการตัวใหญ่ ที่สามารถเปลี่ยนคนทั้งประเทศ และเปลี่ยนลูกหลานไทยให้มีโอกาสเป็นเศรษฐีได้ด้วยวิธีง่ายๆ และหากคิดเป็นคณิตศาสตร์ เป็นวิทยาศาสตร์ โคกินแต่หญ้า ถึงปีออกลูก 1 ตัว 10 เดือนโต 300 กิโล หาก ปีแรกมีโค 4 ตัว ยืมเงินกองทุนหมู่บ้านไป 50,000 บาท ซื้อโคเพศเมีย 2 ตัว ออกลูก 2 ตัวเป็น 4 ตัว ปีที่ 2 ก็เป็น 6 ตัว ถ้าขายวัว 1 ตัวราคา 25,000 เริ่มคืนทุนครึ่งหนึ่งแล้ว และหากเลี้ยงไปเรื่อยๆถึง 10 ปี จะมีเงินถึง 7 ล้านบาท ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มหาศาล
ทั้งนี้ ยังเป็นอาชีพที่ไม่จำเป็นต้องเรียนเก่ง ขอให้กล้าที่จะรวย รวยได้ด้วยนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นนโยบายเดียวของพรรคการเมือง ที่ตนเชื่อมั่นได้ว่าเป็นโอกาสของลูกหลานไทย ที่จะเข้าไปสู่ความร่ำรวย เพียงแค่ตั้งใจที่จะรวย
ที่ผ่านมา 300 ครอบครัวทำสำเร็จแล้ว และอีก 1000 ครอบครัวที่กองทุนหมู่บ้านให้เงินยืมไปสำเร็จทั้ง 1,000 ครอบครัว ยกตัวอย่างมีหนึ่งตำบลในจังหวัดชัยนาท มีอยู่ประมาณ 2,000 ครอบครัว เลี้ยงโค 70% จากตำบลที่แห้งแล้งและยากจนที่สุด ภายใน 3 ปี กลายเป็นตำบลที่รวยที่สุด นี่คือสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าเราทำแล้ว และยังเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่าลูกหลานไทยว่า จะกลับไปร่ำรวยที่บ้านเกิด นอกจากนี้สัตว์เหล่านี้ยังสามารถนำไปค้ำประกันเงินกู้ได้อีก ตามที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ทีมเศรษฐกิจของพรรคได้เตรียมเอาไว้ นั้นคือโอกาสยิ่งใหญ่ของคนไทย และรากหญ้าที่จะเข้าถึงแหล่งทุนด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
