ทูตชิลี เข้าพบนายกรัฐมนตรีในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ยืนยันสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์ในทุกระดับให้ก้าวหน้าต่อไป
นายอเล็กซ์ ไกเกอร์ ซอฟเฟีย (H.E. Mr. Alex Geiger Soffia) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐชิลีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตชิลีฯ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย – ชิลี นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยมีส่วนเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่าง สองประเทศให้แน่นแฟ้นและมีพลวัตมากยิ่งขึ้น พร้อมฝากความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีกาบริเอล โบริก ฟอนต์ ซึ่งได้พบกันล่าสุดในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เชื่อมั่นว่าภายใต้การนำ ของประธานาธิบดีกาบริเอลฯ ความสัมพันธ์ไทย – ชิลีจะก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ไทยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์กับชิลี ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ให้ราบรื่น มีพลวัต และก้าวหน้าอย่างสร้างสรรค์ต่อไป
เอกอัครราชทูตชิลีฯ รู้สึกประทับใจที่ได้มาดำรงตำแหน่งในประเทศไทย โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยไทยและชิลีมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และได้ฉลองในโอกาส ครบรอบ 60 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2565 ความสัมพันธ์และความร่วมมือเติบโตและครอบคลุมทุกระดับ พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในภาพรวม โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน วิชาการ การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ระดับประชาชน ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงความร่วมมือประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่การค้าระหว่างกันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย – ชิลี ที่กำลังจะมีอายุการลงนามครบ 10 ปีในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะนำคณะผู้ประกอบการไทย สาขาสินค้าอุตสาหกรรมและอาหาร เดินทางไปเยือนลาตินอเมริกา รวมถึงชิลี และไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการความตกลงการค้าเสรีไทย – ชิลี ครั้งที่ 4 ในวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ เพื่อขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินการภายใต้ FTA ซึ่งนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตชิลีฯ ต่างมุ่งหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะได้ใช้โอกาสนี้ส่งเสริมการค้า และการใช้ประโยชน์จาก FTA ระหว่างกัน
ความร่วมมือทางวิชาการ เอกอัครราชทูตชิลีฯ ยินดีที่ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันการส่งเสริมการปลูกพืชควินัว และได้ขยายผลไปยังประโยชน์ให้แก่ประเทศอื่นในอาเซียนด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปลูกพืชควินัวได้ช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรไทยสามารถเพาะปลูก และมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือใต้-ใต้ พร้อมสานต่อความร่วมมือทางวิชาการกับชิลี ทั้งในระดับทวิภาคีและไตรภาคี
การเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยได้เสนอจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 – Phuket Thailand นำเสนอจุดแข็งด้านสาธารณสุข และเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางสุขภาพ และจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก รวมถึงบทบาทสร้างสรรค์ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งชิลีจะช่วยพิจารณาไทยในการเป็นเจ้าภาพงานดังกล่าว
ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียินดีที่ชิลีสนใจกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับไทย ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ จึงยินดีที่จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีในสาขาดังกล่าวกับฝ่ายชิลี ซึ่งเอกอัครราชทูตชิลีฯ เชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ จะเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ชิลี
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวอวยพรให้เอกอัครราชทูตชิลีฯ และครอบครัว เดินทางกลับชิลีโดยสวัสดิภาพ ประสบแต่ความสุข ซึ่งเอกอัครราชทูตชิลีฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลและทุกหน่วยงานที่สนับสนุนอย่างดีตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในไทย พร้อมสานต่อการดำเนินงานให้เอกอัครราชทูตชิลีฯ คนใหม่
นายกฯ ชื่นชมทีมนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งหญิงไทย ทำผลงานโดดเด่น รักษาแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2 ผ่านเข้าสู่การแข่งขันระดับโลกในปีหน้า นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีกับทีมนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งหญิงทีมชาติไทย
ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประเภททีมหญิง “2023 IIHF Ice Hockey Women’s Asia and Oceania Championship” ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยทีมฮอกกี้น้ำแข็งหญิงไทย สามารถรักษาแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ผ่านเข้าสู่การแข่งขัน IIHF Women’s World Championship ในปีต่อไป ยืนยันถึงศักยภาพทางด้านกีฬาของไทยในเวทีระดับโลก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 7 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรอบคัดเลือกโซนเอเชียและโอเชียเนีย เพื่อรับสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเพื่อไปแข่งขันในระดับโลก IIHF Women’s World Championship ซึ่งจะจัดในปีต่อไป โดยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติอิหร่าน
โดยในช่วงแรกของการแข่งขัน ไทยทำประตูนำอิหร่านไป 1-0 ประตู จากนั้นในช่วงที่สอง อิหร่านสามารถตีเสมอไทยมาได้เป็น 1-1 ประตู และในช่วงที่สามไทยกลับมาขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ประตู โดยในเกมการแข่งขัน ไทยและอิหร่าน สลับกันขึ้นนำจนกระทั่งก่อนหมดเวลา 5 นาทีสุดท้าย ไทยเอาชนะอิหร่านไปได้ 3-1 ประตู สามารถป้องกันแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ และรับสิทธิ์เข้าแข่งขัน IIHF Women’s World Championship ในปีต่อไป
นอกจากนี้สมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มีการพูดคุยกับมนตรีซีเกมส์ในเรื่องการบรรจุกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งเข้าไปในการชิงชัยซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง ซึ่งกลุ่มประเทศอาเซียนก็ยินดีที่จะส่งทีมฮอกกี้น้ำแข็งเข้าแข่งขันด้วยเช่นกัน หากได้รับการบรรจุในซีเกมส์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews