“ไอติม”ก้าวไกลพร้อมชี้แจงเพื่อคลายความกังวล ส.ว.
“ไอติม” ยันก้าวไกล พร้อมชี้แจง เพื่อคลายความกังวลของ ส.ว. ฝากถึง ส.ว. หาก ไม่อยากเห็นประเทศถึงทางตัน ต้องโหวต นายกฯ-รบ. ที่ครองเสียงข้างมาก
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล กล่าวถึง การโพสต์ จดหมายเปิดผนึก ถึง สมาชิกวุฒิสภา 250 คน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “พริษฐ์ วัชรสินธุ – ไอติม – Parit Wacharasindhu” ว่า ในเมื่อรัฐธรรมนูญยังมีอำนาจให้ ส.ว. เลือกนายกฯอยู่
ให้สนับสนุนนายกฯ และรัฐบาลที่สามารถรวบรวมเสียงเกินครึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรได้ ยืนยันว่าข้อเสนอนี้ไม่ใช่ข้อเสนอที่จะขอให้มาชื่นชอบ หรือนิยมพรรคก้าวไกล แต่เป็นข้อเสนอที่เรียกร้องให้ ส.ว. ยึดหลักการตามประชาธิปไตย ตามระบบรัฐสภา และเคารพ 1 สิทธิ 1 เสียงของประชาชน ที่แสดงเจตนารมณ์ผ่านคูหาเลือกตั้ง พยายามไล่เรียงเหตุผลว่า ส.ว. จำนวนไม่น้อยจะเห็นตรงกับหลักการนี้
นอกเหนือจากการยึดหลักการประชาธิปไตยแล้ว ก็พยายามที่จะยกคำอภิปรายของสมาชิวุฒิสภาหลายคนตลอด 3-4 ปีที่ผ่าน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าเขายึดหลักการที่เคยพูดไว้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการสนับสนุนกับหลักการที่เสนอ เช่น ถ้าย้อนไปดูร่างรัฐธรรมนูญ การยกเลิกอำนาจ ส.ว. การเลือกนายกสามครั้ง จะเห็นว่า มี ส.ว. ประมาณ 60 กว่าคน ที่ลงมติเห็นชอบอย่างน้อย 1 ใน 3 ครั้ง
“เราหวังว่าการที่มี ส.ว. 30 คน ที่เห็นถึงปัญหานี้ เห็นด้วยกับการที่ว่าไม่ต้องมีมาตรานี้น่าจะเห็นด้วยว่า ส.ว. ไม่ควรมีอำนาจเข้ามาแทรกแซงในการจัดตั้งรัฐบาลและสนับสนุนนายกที่ได้เสียงข้างมาก” พริษฐ์กล่าว
ถึงแม้จะมี ส.ว. ที่ไม่เห็นชอบ ก็พยายามจะชี้ให้เห็นว่า ถ้ายึดคำพูดว่าอยากจะเห็นประเทศไปต่อได้ ไม่เจอทางตัน ไม่อยากเห็นความขัดแย้งในบ้านเมือง สิ่งที่จะทำให้ประเทศไปต่อได้ คือการสนับสนุนนายกฯ รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภา หากจะดึงดันสนับสนุนนายกที่มาจากเสียงข้างน้อย ท้ายสุดแล้วรัฐบาลนั้นก็ไม่สามารถที่จะบริหารประเทศได้ เพราะไม่สามารถผ่านกฎหมายและงบประมาณใด ๆ ได้ และถูกล้มโดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อถามว่าการโน้มน้าว ส.ว. ยากกว่าหรือง่ายกว่า ในการหาเสียง ส.ส. พรรคอื่น พริษฐ์ตอบว่า เราทำสองอย่างคู่ขนานได้ หากดูจากตัวเลขในปัจจุบัน ในบรรดาพรรคที่กำลังพูดคุยในการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะทำให้ตัวเลขอยู่ที่ 310 ซึ่งในมุมของการบริหารประเทศถือว่ามีเสถียรภาพ เพราะว่าเกินกึ่งหนึ่งมาพอสมควร
แต่ถ้าจะบรรลุเป้าหมายใรการเลือกนายกฯ อยู่ที่ 376 ขาดประมาณ 60 กว่า ซึ่งจะมาจากสองส่วน คือ จาก ส.ว. ถ้ายึดตามจำนวน ส.ว. ที่เห็นขอบในการยกเลิกอำนาจในการเลือกนายกฯ ถือว่าเพียงพอ อีกส่วนคือจากพรรคอื่น ๆ ซึ่งก็เห็นท่าทีของบางคนที่ออกมาในลักษณะนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล เขาพร้อมที่จะยกมือให้กับนายกฯและรัฐบาลที่ครอบครองเสียงข้างมาก เพื่อยืนยันหลักการประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา
นายพริษฐ์กล่าวว่า เรายินดีพูดคุยกับ ส.ว. แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา อาจมีเพียงไม่กี่ท่านที่มาแสดงความเห็น และพยายามดูว่ามีจุดอะไรที่ทำให้เขามีข้อกังวล และเราพร้อมพูดคุยทำความเข้าใจ กับนโยบายของพรรคก้าวไกล
สิ่งที่เราปรารถนาสำหรับประเทศไทย และพยายามคลายข้อกังวลเหล่านั้น ในวันที่ 23 พ.ค.ที่มีการนัดประชุม ส.ว. ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ ทางเราก็ยินดีในการเข้าไปตอบคำถาม หรือข้อสงสัยของ ส.ส. ทุกคน
ส่วนในเรื่องของการปิดสวิตซ์ ส.ว. และมี ส.ว. บางท่านปิดสวิตซ์ตัวเองด้วยการไม่โหวต นายพริษฐ์กล่าวว่า การปิดสวิตซ์ ส.ว. คือ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ควรจะเข้ามามีอำนาจในการเลือกนายกฯหรือแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ที่ควรจะเป็นหน้าที่ของ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง
การปิดสวิตซ์ที่ดีที่สุดคือยกเลิกมาตรา 272 ไม่ให้ ส.ว. มีอำนาจในการเลือกนายกฯ แต่เสนอไปเท่าไหร่ก็ไม่ผ่าน การปิดสวิตซ์ ส.ว. ในความหมายของวันนี้คือ การที่ ส.ว. โหวตให้กับนายกฯและรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมาก การงดออกเสียงไม่สามารถปิดสวิตซ์ ส.ว. เพราะตามรัฐธรรมนูญ ใครจะเป็นนายกต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ ไม่ใช่สมาชิกที่ลงมติ การงดออกเสียงเป็นการขัดขวางได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews