“พิธา” นำ 8 พรรคร่วมลงนาม MOU ตั้งรัฐบาล ดันแก้ รธน. สมรสเท่าเทียมกัญชาหวนยาเสพติด หวังครบรอบวันรัฐประหารเป็นหมุดหมายเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย ยันก้าวไกลเดินหน้าแก้ ม.112 แม้ไม่กำหนดใน MOU
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลรวม 8 พรรค ลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU จัดตั้งรัฐบาลว่า วันนี้ 22 พฤษภาคม ครบรอบรัฐประหาร 2557 เป็นวันประวัติศาสตร์ เป็นหมุดหมายที่ดีที่สามารถเปลี่ยนผ่านมาสู่ระบบประชาธิปไตยผ่านระบอบรัฐสภาอย่างสันติ วันนี้รวบรวมวาระร่วมที่เห็นตรงกัน พร้อมผลักดันกลไกของรัฐบาลและรัฐสภา
โดยบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล ทำขึ้นเพื่อสร้างพื้นฐานในการจัดตั้งรัฐบาลและทำงานร่วมกันระหว่าง พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรมและพรรคพลังสังคมใหม่ ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่า ภารกิจของรัฐบาลที่ทุกพรรคจะผลักดันร่วมกันนั้น ต้องไม่กระทบรูปแบบของรัฐและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะอันเป็นที่สักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ขององค์พระมหากษัตริย์
สำหรับ MOU ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่าภารกิจของรัฐบาลที่ทุกพรรคจะร่วมผลักดันประกอบไปด้วยวาระร่วมดังต่อไปนี้
1.ฟื้นฟูประชาธิปไตย รวมถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
2.ยืนยันและผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ โดยจะไม่บังคับประชาชนที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักการของศาสนาที่ตนเองนับถือ
3.ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม ให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย โดยยืดหลักความโปร่งใส ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน
4.เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ
5.ร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคำนึงถึงหลักการด้านสิทธิมนุษยชน การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงทบทวนภารกิจของหน่วยงานและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคง
6.ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ เพื่อให้ท้องถิ่นตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ ปราศจากการทุจริต
7.แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันโดยการสร้างระบบและวัฒนธรรมรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐในทุกหน่วยงาน
8.ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยยึดหลักเพิ่มรายได้ประชาชน ลดความเหสื่อมล้ำ และสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม
9.ยกเครื่องกฎหมายเกี่ยวกับการทำมาหากิน และการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น ตัด ลด หรือพักใช้ชั่วคราวซึ่งใบอนุมัติ อนุญาตที่ไม่จำเป็นและเป็นอุปสรรคเพื่อปรับปรุงใหม่ ให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องทางด้านการเงินและสร้างแต้มต่อให้กับ SME พร้อมกับมุ่งเน้นการเติบโต GDP ของ SME สนับสนุนอุตสาหกรรม และสินค้าไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
10.ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพรรคประชาชาติสงวนสิทธิ์ไม่เห็นด้วย ด้วยเงื่อนไขทางด้านศาสนา
11.ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ ด้วยการผลักตันกฎหมายปฏิรูปที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมแก้ปัญหาแนวเขตป่าไม้และที่ดินของรัฐที่ทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน รวมถึงการทบทวนคดีที่เป็นผลจากนโยบายทวงคืนผืนป่า
12.ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน
13.จัดทำงบประมาณแบบใหม่ โดยเน้นใช้วิธีการจัดงบประมาณฐานศูนย์ (zero-based budgeting)
14.สร้างระบบสวัสดิการดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงวัย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและภาระทางการคลังระยะยาว
15.แก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเร่งด่วน
16.นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ โดยมีกฎหมายควบคุมและรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา
17.ส่งเสริมเกษตรและปศุสัตว์ปลอดภัย คุ้มครอง รักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิตส่งเสริมการตลาด ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยี และแหล่งน้ำ ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อวางแผนการผลิตและรักษาผลประโยชน์กษตรกร ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ
18.แก้ไขกฎหมายประมง ขจัดอุปสรรค เยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพประมงให้ยั่งยืน
19.ยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรมสอดคล้องกับค่าครองชีพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
20.ยกระดับสาธารณสุข
21.ปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
22.สร้างความร่วมมือและกลไกภายในและระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ์ให้เป็นศูนย์ (Net Zero) โดยเร็วที่สุด
23.ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ โดยการฟื้นฟูบทบาทผู้นำของไทยในอาเซียน และรักษาสมดุลการเมืองระหว่างประเทศของไทยกับประเทศมหาอำนาจ
ทุกพรรคเห็นพ้องกันว่าจะร่วมกันบริหารประเทศด้วยแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้
1.ทุกพรรคจะคุ้มครองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประชาชนทุกคน
2.ทุกพรรคจะทำงานโดยซื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใด มีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน ทุกพรรคจะยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้น ๆ ทันที
3.ทุกพรรคจะทำงานโดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงใจต่อกัน สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง
4.ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้โดยอาศัยอำนาจฝ่ายบริหารของรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของแต่ละพรรคการเมือง
5.ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้โดยอาศัยอำนาจนิติบัญญัติของผู้แทนราษฎรที่สังกัดแต่ละพรรคการเมือง
ส่วน ม.112 ไม่ได้ถูกบรรจุใน MOU แต่นายพิธา ยืนยันจะเดินหน้าทำอยู่ และครั้งนี้น่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งการผลักดันแก้ ม.112 ผ่านกลไกสภา จะส่งผลต่อเสียงของ ส.ว.ในการโหวตหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากที่มีทีมเจรจา ก็ได้คลายข้อกังวลใจของวุฒิสภาอย่างต่อเนื่อง และไม่คิดว่าจะสร้างความกังวล หากมีการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่าร้านขายกัญชาจะต้องปิดตัวลงหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ปัญหาของกัญชาอยู่ที่สภาพบังคับ หมายความว่าจะมีการควบคุม ถ้าใครทำถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่ต้องกังวล ที่ต้องกังวลคือ การนำเข้าและจำหน่ายในแบบที่ไม่ถูกกฎหมาย ส่วนประเด็นสมรสเท่าเทียม เป็นการรับรองสิทธิ์ ไม่ใช่การบังคับประชาชน
ด้านวันมูหะหมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า การทำพิธีสมรส ถ้าไม่ถูกต้องตามหลักศาสนา ผู้นำศาสนาก็ไม่สามารถทำพิธีตามหลักศาสนาได้ เช่นเดียวกับศาสนาพุทธ หากทำไม่ถูกต้องตามหลักศาสนา พระสงฆ์ก็ไม่สามารถทำพิธีตามหลักศาสนาได้
สำหรับเตรียมแผนสำรองไว้หรือไม่ หากเสียงโหวตเลือกนายกฯ ไม่ผ่านในรัฐสภา นายพิธา กล่าวว่า กระบวนการทำงานทั้งคณะเจรจาและคณะเปลี่ยนผ่าน เป็นไปด้วยดี ไม่ว่าจะข่าวลือที่ทำให้สั่นคลอนหรือหวั่นไหว แต่ทุกพรรคที่มาแถลงวันนี้ให้เกียรติซึ่งกันและกัน จึงไม่กังวล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews