กทม.เดินหน้าห้องเรียนดิจิทัล ตัวช่วยครูนักเรียน พร้อมขยายผล 437 รร. ปี 69
วันนี้? (23 พ.ค. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจผลการนำร่องในโครงการ ห้องเรียนดิจิทัล หรือห้องเรียนกูเกิล (Google Classroom) ที่โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ เขตบางเขน ซึ่ง กทม.ร่วมมือกับกูเกิล ทำการทดลองมาแล้ว 1 เทอม และมีแผนขยายผลต่อเนื่องทุกโรงเรียน สังกัด กทม.
นายศานนท์ กล่าวว่า การนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น คอมพิวเตอร์แบบพกพา (โน้ตบุ๊ก,แล็ปท็อป) จะช่วยให้ครูและนักเรียนมีเครื่องมือในการเรียนการสอนที่ใช้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยกูเกิลทำการทดลองเรื่องนี้มานานแล้ว เช่น ที่ประเทศญี่ปุ่น มีเด็ก 9 ล้านคนเรียนในระบบห้องเรียนกูเกิ้ล หมายถึงเด็กมีคอมพิวเตอร์พกพาส่วนตัวทุกคน การทดลองดังกล่าวกำลังขยายผลไปยังประเทศอินโดนีเซีย และกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับกรุงเทพมหานคร ได้เริ่มทดลอง 1 ห้องเรียนในเทอมที่ผ่านมา และกำลังขยายผลต่อให้ได้มากที่สุด ปัญหาหลักอยู่ที่อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นคอมพิวเตอร์ (ฮาร์ดแวร์) ซึ่ง กทม.กำลังเปิดรับบริจาคโน้ตบุ๊กเก่า เพื่อนำมาบรรจุระบบปฏิบัติการใหม่ ลดการทำงานหนักของคอมพิวเตอร์ และสามารถนำกลับมาใช้ได้ผ่านคลาวด์ หรือตัวกลางควบคุมระบบต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยให้คอมพิวเตอร์เก่าสามารถเข้าถึงการใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น โดยไม่ต้องซื้อใหม่ เป็นการประหยัดงบประมาณอีกทางหนึ่ง
จากการร่วมมือกับกูเกิล จึงเกิดโครงการอบรมครูในการใช้งานโปรแกรมที่จำเป็นต่างๆ ในแต่ละเทอม หากครูต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม จะมีการสอนเป็นรายบุคคล โดยกูเกิลเป็นผู้สนับสนุนเครื่องมือและวิธีใช้ ส่วนเนื้อหาครูเป็นผู้ออกแบบ และนำมาใช้ผ่านเครื่องมือที่กูเกิลสนับสนุน ในระยะเริ่มต้นหรือช่วงเปลี่ยนผ่านจากการสอนรูปแบบเดิมสู่ระบบห้องเรียนกูเกิล ครูอาจจะเหนื่อยเพิ่มขึ้น แต่เมื่อบรรจุรูปแบบการสอนครบสมบูรณ์แล้ว ในปีต่อไปสามารถนำกลับมาใช้ได้ทั้งหมด หรือสามารถเพิ่มเติมได้ตามต้องการ เป็นการประหยัดเวลา เอกสาร สามารถตรวจผลการเรียนย้อนหลัง บริหารการเรียนการสอนได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ จากการทดลอง ได้รับเสียงตอบรับจากนักเรียนว่าต้องการใช้ต่อ ซึ่ง กทม.เตรียมขยายผลให้ทั่วถึงนักเรียนทุกระดับ
นายชัชชาติ กล่าวว่า ปี 2565 เป็นปีแห่งการทดลองนำร่องโครงการต่างๆ เช่น โครงการด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา หัวใจสำคัญคือ ต้องนำมาขยายผลได้ ไม่จำกัดอยู่กับเด็กนักเรียนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีความเท่าเทียมกัน จากการรายงาน คาดว่าจะขยายครบทั้ง 437 โรงเรียน ภายในปี 2569 โดยระบบห้องเรียนกูเกิลมีการใช้แพร่หลายในการศึกษานานาประเทศ สามารถปิดการใช้งานเว็บไซต์ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กได้ รวมถึงสามารถควบคุมเวลาการใช้ได้ตามต้องการ จากการทดลองใช้ ครูผู้สอนรายงานว่า เด็กที่ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ สามารถใช้ไมค์ออกคำสั่งเสียงแปรรูปเป็นตัวหนังสือในการเรียนร่วมกับนักเรียนปกติได้ ซึ่งเป็นเครื่องมือในการเรียนร่วมกันได้เป็นอย่างดี
สำหรับ Google Classroom เป็นระบบปฏิบัติการ หรือ แอพพลิเคชั่น หนึ่ง บริการฟรีสำหรับโรงเรียน ช่วยให้ครูและนักเรียนเชื่อมต่อถึงกันได้ง่ายทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ออกแบบมาเพื่อสามารถเก็บรวบรวมข้อมูล สื่อสาร ตัดเกรดงานทางออนไลน์ได้ การทำสำเนาเอกสารแจกนักเรียน จัดโฟลเดอร์ต่างๆ ให้นักเรียนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องใช้เอกสาร สามารถติดตามงานและกิจกรรมต่างๆ ระหว่างครูกับนักเรียนได้ง่ายขึ้น ประหยัดเวลา ลดขั้นตอน สามารถออกแบบการเรียนการสอนโดยนำสื่อต่างๆ เข้ามาเสริมได้โดยสะดวกเหมาะกับยุคสมัย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews